Author Topic: ห้าความลับในการสร้างภาพวิวทิวทัศน์ที่น่าประหลาดใจ  (Read 5110 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
ห้าความลับในการสร้างภาพวิวทิวทัศน์ที่น่าประหลาดใจ

โพสโดย Dani Diamond แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับ เพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://fstoppers.com/the-five-secrets-to-creating-amazing-landscape-photos

ในช่วงเวลาแว๊ปเดี๋ยว บางคนรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เหมือนกับช่างภาพวิวทิวทัศน์ คุณมีพลังในการนำพาบางคนในช่วงพริบตาและส่งพวกเขาไปในเส้นทางภาพถ่ายของคุณและทำให้พวกเขาเห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ในโลกที่เขาอาศัยอยู่ การสร้างภาพวิวทิวทัศน์ที่น่าประหลาดใจมันเป็นวิธีที่เกินกว่าจะถ่ายภาพโดยใช้ HDR ที่ถูกตั้งค่าบนเครื่อง iPhone การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ดูเหมือนน่ากลัว แต่หลังจากที่คุณได้อ่านความลับในการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์นี้แล้ว ไม่มีทางที่จะปฎิเสธว่าทำไมคุณไม่สามารถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งนี้ได้ด้วยตัวคุณเอง
ไม่เหมือนกับการถ่ายภาพงานแต่งงานหรือภาพบุคคล การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์จะไม่เป็นเหมือนคนมาเคาะประตูหน้าบ้านคุณเพื่อที่จะจ่ายเงินในการทำงานของคุณ การจะประสบความสำเร็จเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่คุณต้องการคุณต้องการสองสิ่งคือ แรงกระตุ้นและแรงพลักดัน หนึ่งในนั้นคุณมีอยู่แล้ว คุณต้องการเพียงแค่สถานที่และเวลาโดยเล่นเป็นบทเป็นตัวแกนหมุนในความสำเร็จของภาพถ่ายวิวทิวทัศน์
การสร้างสรรค์เป็นงานที่หนัก สำหรับภาพถ่ายนี้ผมได้ย้อนกลับไปในที่นั้นถึง 3 คืน กระแสน้ำต้องสมบูรณ์และดวงอาทิตย์ตกต้องที่เป็นที่น่าพอใจ ผมพร้อมที่จะเดินออกหลังจากคืนที่สองกับภาพธรรมดาที่ผมถ่ายได้ แต่ขอบคุณที่ผมยังพลักดันตัวเองให้กลับไปอีกครั้งเพื่อที่จะเติมเต็มในสิ่งที่ยังคงไม่พบในสิ่งที่มองเห็น การทำงานหนักได้ถูกชดเชยแล้ว ผมชนะการประกวดหลังจากการประกวดผ่านไป แต่สิ่งสำคัญมากกว่าคือผมปลาบปลื้มใจกับภาพวิวเมืองที่ผมทำมันขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นภาพนี้เพียงภาพเดียวจ่ายค่าอุปกรณ์ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ของผมทั้งหมดอีกด้วย
มีค่า exposure สองค่าที่ถูกรวมสำหรับภาพถ่ายของเมืองนิวยอร์ก คุณสามารถไปดูภาพถ่ายที่ผมใช้ได้ที่นี้ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=744518542247554&set=a.541099019256175.126636.150556814977066&type=1&theater  (ลองตามไปดูที่ facebook ของผมได้ https://www.facebook.com/DaniDiamondPhotography  ผมได้โพส ก่อนและหลังไว้ด้วย)

1. สถานที่ สถานที่ และก็สถานที่

สวนหลังบ้านของคุณไม่ใช่สถานที่ที่จะถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ คุณต้องขับรถออกไป ค้นหาและสังเกตการณ์ โชคดี 500px ทำให้การค้นหาสถานที่ง่ายขึ้นมาก  เริ่มจากการค้นหา เมือง และเริ่มแคบลงในการค้นหาโดยเลือกคำว่า “Lanscape” หรือ “Fine Art” และในที่สุดก็ดูแบบเผินๆจนกระทั่งพบสถานที่ถ่ายภาพที่คุณสนใจ คลิ๊กไปบนภาพและเลือก “Location” แปดสิบเปอร์เซนต์ของคนที่แท๊กสถานที่ที่พวกเขาได้ถ่ายภาพมา จำไว้ว่า ค้นหาสิ่งที่สนใจก่อน ดังนั้น สถานที่ที่ต้องการถ่ายภาพควรเป็นลำดับต้นๆ

2. เวลา

ธรรมชาติจะไม่ทำงานร่วมกับตารางเวลาของคุณ คุณจะต้องโน้มตัวไปด้านหลังของธรรมชาติ สำหรับผมนี้คือขั้นตอนที่ยาก โดยเฉพาะเมื่อผมกำลังเดินทางไปพักผ่อน โดยส่วนมากคุณต้องการที่จะถ่ายภาพดวงอาทิตย์ขึ้น หรือตก...ช่วงเวลาทอง  ส่วนช่วงกลางวันผมไม่แนะนำ คุณจะต้องตั้งเวลาปลุกตัวคุณเองสำหรับชั่วโมงที่ไร้สาระของวันและคืนและปีนป่ายในความมืด ช่วงเวลาดวงอาทิตย์ตกเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสองทางแรก แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่แถบฝั่งตะวันออกมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะถ่ายภาพดวงอาทิตย์ตกที่ข้ามมหาสมุทร  (เพราะว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก) อย่างไรก็ดีในฝั่งตะวันตกคุณสามารถไปที่ชายหาดเพื่อเก็บภาพดวงอาทิตย์ตกได้ แค่ให้แน่ใจว่าคุณได้วางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ให้รู้แน่ว่าดวงอาทิตย์ตกและขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ Application ที่ดีที่สุดจะช่วยคุณหาตำแหน่งสำหรับบนมือถือ และบนคอมพิวเตอร์ มันคือ TPE http://photoephemeris.com/
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ) สำหรับการตั้งค่ากล้องที่เปิดค่ารับแสงนานในภาพนี้ ผมใช้เทคนิคจาก averaging technique http://www.verdantvista.com/tut9   สิบภาพ ที่ความเร็ว 8วินาที แต่ละภาพ กล้อง D800 เลนส์ 16-35mm

3. อุปกรณ์

ขาตั้งกล้อง ถ้าคุณวางแผนว่าจะถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แบบเอาจริงเอาจังให้คุณลงทุนซื้อขาตั้งกล้องเถอะ ถ้าไม่มีมันคุณจะจบลงด้วยใช้เงินอีกเท่าตัวและค้นหาตัวเองที่ทำให้ท้อแท้หลายๆครั้ง ผมใช้ขาตั้งกล้องของ Vanguard และหัวบอลของ Manfrotto ซึ่งราคารวมกันแล้วแค่ 300 เหรียญสหรัฐ มันเดินทางไปทุกๆ ที่กับผม ไม่ว่าจะหนาหรือบาง มันไม่แพงแต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว กุญแจสำคัญคือเมื่อคุณกลับไปบ้านก็ทำการล้างทำความสะอาดมันและทำให้มันแห้งเร็วที่สุด ผมชอบถ่ายภาพวิวชายทะเลและขี้เกลือ ทรายจะเกาะติดกับขาตั้งกล้องอะไรก็ตามที่คุณซื้อมาใช้ สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ ตัว L-bracket ถ้าคุณเคยพยายามถ่ายภาพแนวตั้งบนขาตั้งกล้องคุณจะพบว่าความสมดุลบนตัวขาตั้งกล้องจะไม่นิ่งและสั่น ยิ่งไปกว่านั้น หัวบอลส่วนใหญ่จะให้ความยืดหยุ่นที่ไม่ดีนักเมื่อถ่ายภาพในโหมดแนวตั้ง ตัว L-bracket จะใส่ตัวฐานอันที่สองไว้ด้านข้างตัวกล้องเพื่อว่าคุณสามารถปรับเปลี่ยนตัวกล้องในตำแหน่งแนวตั้งที่อยู่บนสุดของขาตั้งกล้อง
ฟิวเตอร์ จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและควรค่าแก่การลงทุน ถ้าคุณเคยถ่ายภาพดวงอาทิตย์ตกโดยปราศจากตัวกรองแสงคุณจะสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่าภาพท้องฟ้าจะสวยงามและฉากหน้าจะกลายเป็นภาพเงาดำหรือถ้าฉากหน้าตั้งค่าสมบูรณ์และท้องฟ้าจะขาวโพลน นี้คือสิ่งที่ตัวกรองแสงเข้ามาช่วยไว้ ท้องฟ้าที่สว่างกว่าฉากหน้าดังนั้นคุณต้องการชดเชยการวัดแสงโดยใส่ตัวกรองที่ไล่สีของความมืดจากบนสุดของภาพ ในสถานการณ์นี้คุณควรจะใช้ตัวกรองแสงแบบ neutral density grad ลองจินตนการแบบพื้นๆเมื่อคุณใส่แว่นตากันแดดด้านบนหรือหนึ่งในสามขององค์ประกอบภาพ นี้คือวีดีโออธิบายเรื่องฟิวเตอร์ ND grad https://www.youtube.com/watch?v=06wzD-S0jL0  เมื่อเราใส่ตัวกรองแสง (ฟิวเตอร์) มีสองแนวทางที่แตกต่างที่ควรจะเลือก แบบกลม หรือสี่เหลี่ยมจตุรัส แบบกลมจะเป็นฟิวเตอร์ที่มีเกลียวเหมือนกับตัวฟิวเตอร์ UV ซึ่งร้าน BH แนะนว่าควรซื้อใส่ไว้กับทุกเลนส์ สำหรับแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสที่เป็นแผ่นกรองแสงที่ต้องสไลด์เข้ากรอบตัวจับแผ่นกรองแสงที่อยู่ด้านหน้าเลนส์ ผมไม่แนะนำให้ใช้แบบวงกลมแม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ตัวกรองแสงแบบ ND grad แต่ถ้าคุณจริงจังกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ คุณควรจะมีตัวกรองแสงของ Lee ที่มีอุปกรณ์พื้นฐานมาเป็นชุด คุณสามารถที่จะซ้อนตัวกรองแสงได้หลายแผ่น เพื่อจะได้ปรับตัวกรองแสงตามเส้นแนวนอนในภาพและง่ายต่อการซ้อนแผ่นกรองแสง เหมือนกับตัว Big Stopper ที่ต้องเลือนขึ้นลงในการปรับองค์ประกอบภาพและการโฟกัสภาพ ตัว Lee filter ยังสามารถให้คุณใส่ตัวกรองแบบตัดแสงเงาสะท้อน Circular Polarizer เพิ่มได้อีกด้วย ตัวกรองแสงเองยังคงต้องจับภาพสิ่งซึ่งไม่ง่ายในการที่จะเลียนแบบตอนทำการปรับแต่งภาพ ผมใช้ตัวกรองแสงอยู่สองแบบเป็นหลัก หนึ่งคือตัว reverse ND grad และ Big Stopper สำหรับตัว rev ND grad จะถูกใช้เมื่อดวงอาทิตย์ตกในภาพแนวนอน มันจะใส่ส่วนที่มืดของตัวกรองแสงไว้ตรงกลางและขึ้นไปด้านบน สำหรับตัว Big Stopper จะเป็นตัวกรองแสงคือตัว 10 stop ของ ND มันสามารถใช้ในช่วงกลางวันเพื่อให้น้ำดูนุ่มนวลชวนฝัน หรือเหมือนน้ำนม คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมความแตกต่างของตัวกรองแสงและการใช้งานได้จากที่นี้  http://www.bhphotovideo.com/explora/photography/tips-and-solution/filters-landscape-photography
เลนส์และความลึก ส่วนใหญ่เราจะใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อให้ได้ภาพวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุด เลนส์มุมกว้างจะช่วยให้วัตถูในฉากหน้าโดดเด่นและให้ภาพมีมิติ เลนส์เทเล นอกจากจะไม่ได้ให้ความสามารถในการเก็บภาพมุมกว้างแล้ว ยังคงบีบสิ่งต่างๆ ให้อยู่ในภาพ การใช้เลนส์มุมกว้างจะให้ความชัดตื้นชัดลึกในช่วงที่ใหญ่กว่า การสร้างความชัดลึกคงต้องมีสติอยู่กับเรื่องการจัดองค์ประกอบ มองหาจุดน่าสนใจ ใช้กฎสามส่วนและวางเส้นนำสายตาไปที่จุดน่าสนใจนั้น  พูดกันอีกที  อุปกรณ์ก็คือ อุปกรณ์ ในช่วงสิ้นสุดของวัน อย่าปล่อยให้มันหยุดคุณที่จะเติมเต็มความฝันและการสร้างสรรค์ การมีเครื่องมือที่ช่วยให้ได้ผลลัพท์ที่ดีเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่มันก็ไม่ใช่มีมันเพื่อความต้องการ

4. การตั้งค่า

ในทุกแบบของภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์มีจะกฎที่แตกต่างเมื่อทำการตั้งค่าในการถ่ายภาพ เพื่อเป็นการป้องกันกับนอยส์ที่จะเกิดขึ้นบนภาพของคุณ มันถูกแนะนำให้ถ่ายภาพในค่า ISO ที่ต่ำที่สุด (ISO 100) ในหลายกรณีคุณต้องการให้ภาพของคุณทั้งหมดอยู่ในโฟกัส แต่ละเลนส์จะมีความคมชัดที่สุดในแต่ละค่ารูรับแสงที่แตกต่างกัน ถ้าต้องการให้ปลอดภัยสุดพยายามตั้งค่าให้อยู่ระหว่าง F/7.1 ถึง F/11 อะไรก็ตามที่เกินกว่า F/16 จะทำให้ภาพดูนุ่มนวลไปทั้งภาพจากเลนส์มากมาย และอะไรก็ตามที่ตั้งค่าต่ำกว่า f/7.1 มันจะไม่ได้ให้ค่าชัดตื้นชัดลึกที่เยี่ยมที่สุด

5. ขบวนการปรับแต่งภาพ

การปรับแต่งภาพเป็นสิ่งอ้างอิงส่วนบุคคลและแต่ละคนก็มีสไตล์ของตัวเอง โดยส่วนตัว ผมจะอยู่ห่างๆ จากพวกซอฟท์แวร์ HDR เช่น Photomatix ผมพบว่ามันยากที่จะทำเมื่อใช้มัน เหมือนกับการตกแต่งภาพบุคคล ไม่มีค่า preset หรือ action ที่จะให้ผลที่น่าอัศจรรย์ คุณต้องใช้เวลาในการปรับแต่ง Jimmy McIntyre มีชุดการอบรมฟรีซึ่งคุณสามารถดูได้  Zach Schepf ก็มีการอบรมการใช้ blend บนภาพ RAWหลายๆ ภาพซึ่งมีราคา 40 เหรียญสหรัฐและมีคุณค่ามากทีเดียว กระบวนการขั้นตอนของเขาน่าเบื่อและยืดยาว แต่ถ้าคุณใช้ฟิวเตอร์ ND grad คุณจะตัดขั้นตอนของเขาออกได้ครึ่งหนึ่งเลย นี้คือสิ่งที่ผมทำ
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ เพื่อประกอบคำบรรยาย) นี้คือภาพก่อนและหลังจากการปรับแต่งภาพ คุณสามารถเห็นได้ว่ามันไม่ใช่แค่ขั้นตอนเดียวที่เกี่ยวข้อง ผมนั่งทำมันด้วยมือกับพวก dodging และ burning บนตัวตึกเพื่อให้ดูมีมิติ
ถ้าคุณถูกดลใจโดยช่างภาพ หรือรูปภาพ...จงออกไปและเลียนแบบ องค์ประกอบภาพต่างๆของคุณจะออกมาจากตัวคุณเองและมีการใช้พวกมันหลายต่อหลายครั้งในอนาคต คุณมีความสามารถที่จะสร้างสรรค์ด้วยตัวคุณเองและวิสัยทัศน์ในงานของคุณ วางแผนล่วงหน้าและฝึกฝน ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยภาพแห่งความงดงามที่พร้อมให้คุณได้เก็บภาพ การเลียนแบบคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของรูปแบบการประจบสอพลอ เวลานี้คุณมีความรู้ทำให้มันเป็นของคุณซะ