Author Topic: การใช้โฟกัสในการสร้างสรรการถ่ายภาพอาหาร  (Read 3675 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
การใช้โฟกัสในการสร้างสรรการถ่ายภาพอาหาร

โพสโดย Christina Peters แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับ เพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย

http://digital-photography-school.com/using-focus-creatively-food-photography/

มีหลายทางที่จะเลือกใช้โฟกัส หรือความชัดตื้นชัดลึก ในการควบคุมภาพที่เราต้องการจะถ่าย การเลือกโฟกัสในการใช้ค่ารูรับแสงที่ใหญ่ เช่น f/4.5 หรือ กว้างกว่าเพื่อจะแสดงเพียงส่วนเล็กๆในภาพให้อยู่ในโฟกัส คุณสามารถควบคุมที่ซึ่งคุณต้องการให้ผู้ชมได้มองไปในภาพของคุณโดยใช้เทคนิคนี้
กำจัดสิ่งที่รบกวนสายตาออกไป
ถ้าสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง คุณสามารถใช้การเลือกโฟกัสเพื่อให้ทุกสิ่งดูสงบนิ่งและให้ผู้ชมของคุณมองไปในที่ที่คุณต้องการ
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ....ภาพทางซ้ายถ่ายด้วยรูรับแสงที่ f/16 ส่วนทางขวาจะถ่ายด้วยรูรับแสงที่ f/5.6)
เมื่อคุณเปรียบเทียบสองภาพด้านบนและตั้งใจดูว่าคุณเห็นอะไรในตอนแรก และสายตาของคุณมองไปรอบๆภาพนั้น มีของมากมายที่อยู่ในภาพด้านซ้าย คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังมองที่ไหนเป็นที่แรก ในภาพด้านขวาตาของคุณจะตรงไปที่น้ำมันมะกอกที่อยู่ข้างหน้าซึ่งแน่ละมันเป็นที่ที่ฉํนต้องการให้คุณมองเห็น ฉันต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้ถูกดึงออกไปที่ตัวหนังสือบนเหยือกที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ดังนั้นฉันโฟกัสไปที่ใบไม้ประดับอยู่ในน้ำมันมะกอกและเบลอทุกๆสิ่งที่อยู่ข้างนอก ฉันต้องการให้สิ่งแรกอยู่ที่น้ำมันมะกอก และส่วนอื่นๆ กลายเป็นสิ่งรองลงไป ตาของคุณจะมองไปที่อะไรก็ตามที่อยู่ในโฟกัสของภาพ
สิ่งไหนคือพระเอกของภาพ?
คุณสามารถใช้โฟกัสในบางการถ่ายภาพเพื่อที่ชี้ชัดให้เห็นถึงตัวแบบในภาพ ซึ่งตัวแบบนี้คือพระเอกของคุณ ในการถ่ายภาพอาหารเราเรียกว่ามันคือ อาหารพระเอก
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ) ในแต่ละโฟกัสซึ่งถูกเลื่อนเปลี่ยนไปที่ขวดโหลของผักดองคือขวดโหลนั้นเป็นพระเอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันต้องการให้คุณเห็น
นี้คือการถ่ายภาพผักดองที่ฉันถ่ายไว้ คุณสามารถใช้การเลือกโฟกัสเพื่อจะบอกให้ผู้ชมรู้ว่าที่ไหนที่พวกเขาควรจะต้องมองดู ถ้าภาพนี้ถูกนำไปใช้สำหรับการใช้ยาดองดังนั้นคุณควรจะใช้ภาพที่อยู่ทางด้านซ้าย ถ้าภาพถูกใช้สำหรับเรื่องผักดอง คุณก็ควรใช้ภาพทางด้านขวา
เลือกจุดโฟกัสของคุณ
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...ในภาพทางด้านซ้ายถ่ายด้วยค่ารูรับแสง f/8 ขณะที่ภาพด้านขวาถ่ายด้วยรูรับแสง f/4.5)
ฉันโฟกัสไปที่เครื่องเทศที่วางอยู่บนเขียงข้างๆ แตงกวา ในภาพด้านซ้ายคุณไม่สามารถบอกได้ว่าจุดโฟกัสของฉันอยู่ที่ไหนดังนั้นสายตาของคุณจะมองไปทั่วทั้งภาพ ในภาพด้านขวามันมีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด ตัวที่เป็นอาหารพระเอกคือแตงกวาที่ถูกตัดไว้
ภาพทั้งหมดที่รวมแตงกวานั้นคือรูปแบบการจัดเพื่อนของฉันและนักออกแบบ prop Amy Paliwoda เราทำงานหลายๆงานมาด้วยกัน Amy กำลังคุณเกี่ยวกับการใช้ props เพื่อบอกเรื่องราวของคุณ มันคืองานของฉํนในฐานะช่างภาพที่ต้องแน่ใจว่าฉันใช้ค่ารูรับแสงที่เหมาะสมที่จะช่วยให้ prop เป็นตัวช่วยเล่าเรื่อไม่ใช่เป็นสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจ กับทุกๆสิ่งที่อยู่ในโฟกัส prop สามารถเอาออกจากเรื่องราวได้ เมื่อคุณได้เลือกจุดโฟกัสแล้ว ลองถ่ายภาพหลายๆภาพที่มีค่ารูรับแสงที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าอันไหนมันใช้งานได้ดีที่สุดในการเล่าเรื่องราวของคุณ
เมื่อค่ารูรับแสงค่าเดียวไม่เพียงพอ
ตอนนี้ ฉันกำลังจะแสดงให้คุณเห็นเทคนิคที่ฉันใช้เยอะ ฉันจะถ่ายภาพสองภาพที่มีค่ารูรับแสงที่ต่างกัน กับระยะชัดลึกชัดตื้นที่แตกต่างกันด้วยหลังจากนั้นฉันก็รวมพวกมันเข้าด้วยกันใน Photoshop โดยการใช้ layer masks ฉันใช้เทคนิคนี้เมื่อฉันต้องการฉากหลังให้อยู่นอกโฟกัสมากที่สุดแต่ยังคงไว้ที่อาหารหรือตัวสินค้าอยู่ในโฟกัส
ฉันต้องการที่จะเน้นว่า ฉันถ่ายภาพกับกล้องที่อยู่บนขาตั้งกล้อง การวางองค์ประกอบในลักษณะแบบนี้จะยากในการที่จะถือกล้องด้วยมือเปล่า
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ.....ภาพด้านซ้ายถ่ายด้วยค่ารูรับแสง f/8 และทางด้านซ้ายด้วยค่ารูรับแสง f/4.5)
สำหรับภาพนี้ฉันต้องการให้ขวดโหลอยู่ที่ f/8 แต่ฉันต้องการให้ฉากหลังถ่ายที่ f/4.5 ดังนั้นฉันกำลังเอาภาพสองภาพนี้เข้าไปใน Photoshop โดยการสร้าง layer masks และใส่ฉากหลังที่ดีที่สุดบนตัวแบบที่อยู่ในฉากหน้าที่ต้องการ


การทำ Layer Mask
มีหลายวิธีในการทำสิ่งเดียวกันนี้ใน Photoshop แต่วิธีที่ฉันชอบใช้ในการวมภาพหลายภาพด้วยกันโดยใช้ Layer Masks
ในการรวมภาพสุดท้ายฉันจะใส่ฉากหลังของภาพหนึ่งจากสองภาพนั้นและทำซ้ำกับหลอดไฟดวงหนึ่งและแปะไปที่ฉากหลัง
เริ่มต้นฉันจะเปิดสองไฟล์พร้อมกันใน Photoshop ขั้นต่อไป ฉันจะ copy ภาพที่ต้องการฉากหลังและปะลงไปที่อีกภาพหนึ่งที่ฉันต้องการเยือกน้ำที่ต้องการ ดังนั้น ฉันมีไฟล์เดียวกับสอง layer (ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ตอนนี้ ฉันต้องการทำ layer บนสุดให้เป็น layer mask
1.   ไปที่เมนูบาร์ด้านบน
2.   คลิ๊กเลือก “Layer”
3.   เลื่อนลงมาที่เมนู “Layer Mask”
4.   เลือกไปที่  “Reveal All”
ลองดูที่ layer palette ภาพของคุณควรจะเหมือนกับที่คุณเห็นด้านล่างนี้ สองไฟล์นี้กับไฟล์หนึ่งมีกล่องสีขาวอยู่ข้างๆ รูป นั้นคือ layer mask (ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
คุณสามารถเห็น layer mask ใหม่ในวงกลมสีแดง
ในการเริ่มทำงานภายใน layer mask  คุณต้องใช้เครื่องมือ Brush tool ให้แน่ใจว่าในช่องสีถูกเลือกเป็นสีดำอยู่เหนือสีขาว สำหรับการที่ masking ภาพ ถ้าเกิดคุณระบายไกลออกจากพื้นที่ไป คุณสามารถแก้ไขมันโดยการทำตรงกันข้ามคือเลือกจานสีอยู่ด้านบนสีดำและก็ไปแก้ไขส่วนที่เกินออกไปข้างนอก
ในภาพนี้ (ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ) ฉันใช้แปรงที่มีปลายขนนุ่ม (โดยการตั้งค่าความแข็งของแปรงเท่ากับ 0) เพื่อที่จะระบายในส่วนฉากหน้าของ layer บนเพื่อที่ให้เหลือเพียงสีแดงของฉากหลังกับโคมไฟไว้ ในภาพด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็น layer mask ของฉันที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว
สิ่งเหล่านี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการสร้างใน Photoshop.
ตอนนี้ สำหรับภาพสุดท้ายข้างล่างนี้ (ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ) ฉันเพิ่มตัวหนังสือและทำสำเนาและปะภาพหลอดไฟใน Photoshop เพื่อเพิ่มความสมุลกับที่สิ่งที่อยู่ในฉากหลัง  หลอดไฟที่เพิ่มเข้ามาอยู่ใน layer mask เพื่อว่าฉันสามารถดัดขอบของภาพที่ฉันปะลงไปบนไฟล์นั้น
นี้คือสิ่งที่ดูเหมือนใน Layer “2” ที่มีหลอดไฟพิเศษ ถ้ามันเป็นไฟล์ที่มีหลายๆ layer ฉันจะตั้งชื่อแต่ละ layer เพื่อฉันจะได้รู้ว่าพวกมันคืออะไร ในกรณีนี้มันง่ายในการจัดการดังนั้นฉันเลยไม่ได้ทำมัน คุณสามารถเป็น layer mask “1” ซึ่งปุ่มที่อยู่ครึ่งของเฟรมคือสีดำ นี้คือส่วนของภาพที่ฉันบังเอาไว้
ดังนั้นในครั้งต่อไปเมื่อถ่ายภาพบนขาตั้งกล้อง ทดลองกับการถ่ายภาพหลายๆค่ารูรับแสงเพื่อให้ได้ความแตกต่างของความชัดตื้นชัดลึก และคุณอาจจะนำไฟล์เหล่านั้นมารวมเข้าด้วยกัน