Author Topic: เราหาจุด Sweet Spot ของเลนส์ได้อย่างไร: คำแนะนำการทำให้ภาพคมชัดสำหรับผู้เริ่มต้น  (Read 8735 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
เราหาจุด Sweet Spot ของเลนส์ได้อย่างไร: คำแนะนำการทำให้ภาพคมชัดสำหรับผู้เริ่มต้น

โพสโดย Dena Haines แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/how-to-find-your-lens-sweet-spot-a-beginners-guide-to-sharper-images/

คุณรู้สึกเหนื่อยกับภาพที่มันเบลอไหม?
มันได้เวลาที่ต้องเรียนรู้ว่าทำอย่างไรในการถ่ายภาพให้คมชัดโดยการค้นหาจุด sweet spot (จุดที่กำลังดี) นี้คือสิ่งที่เชื่อถือได้ ประหยัดเวลาและช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ในบทความนี้คุณจะได้เรียนถึง
•   การค้นหาจุด sweet spot ของเลนส์อย่างไร  (สำหรับทำให้ภาพคมชัด)
•   ทำไมคุณควรถ่ายภาพในโหมด Aperture Priority (และใช้มันอย่างไร)
•   ทำอย่างไรในการทดสอบให้ได้ความคมชัดที่สุดของภาพในทุกๆ ครั้ง
•   มันสำคัญอย่างไรกับ sweet spot ในเลนส์ของคุณ? สังเกตความแตกต่าง
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...ในภาพนาฬิกาด้านบนนี้ ภาพทางด้านขวามือมีความคมชัดกว่า ลองดูตัวอักษรใกล้ที่อยู่บนตัวนาฬิกา ภาพที่ถ่ายด้วยรูรับแสง f/9 คมชัดกว่าเพราะว่ามันถ่ายที่จุด sweet spot ของเลนส์ ในขณะที่รูรับแสง f/3.5 มันไม่ใช่
สิ่งแรกให้ดูที่เลนส์ของคุณ
ในคำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ เราจะใช้เลนส์ในระดับเริ่มต้นที่เป็นเลนส์ซูมเป็นตัวอย่าง เลนส์คิทส่วนใหญ่ (เลนส์พื้นฐานที่มากับกล้อง DSLR) จะถ่ายภาพได้คมชัดที่สุดที่ค่ากึ่งกลาง ของการตั้งค่ารูรับแสง การที่จะเข้าใจเรื่อง ค่ากึ่งกลางของเลนส์ คุณต้องรู้ความกว้างสุด (หรือมากที่สุด)ของรูรับแสง มันแสดงอยู่ด้านข้างของเลนส์ หรือปลายเลนส์ซึ่งมีลักษณะแบบนี้ 1:3.5-5.6
สำหรับตัวอย่าง นี้คือเลนส์ซูม Canon 18-55mm ของฉัน (ดูภาพตัวอย่างประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
มันหมายความว่า เมื่อเลนส์ของฉันซูมออกไป ความกว้างสุดของรูรับแสงคือ f/3.5 ขณะเมื่อเลนส์ซูมเข้ามาความกว้างสุดของรูรับแสงจะเท่ากับ f/5.6
กฎของการหาค่ากึ่งกลางที่เป็นจุด sweet spot คือ ให้นับเพิ่มไปอีก 2 f-stop (นับเต็ม) (ค่ารูรับแสงถูกเรียกว่า f-stop) จากค่ารูรับแสงที่กว้างสุด ในเลนส์ของฉัน ค่ารูรับแสงกว้างสุดคือ f/3.5 ถ้านับไปอีก 2 stop จากนี้มันจะได้ค่าจุดกึ่งกลางราวๆ f/7
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...ในตารางด้านล่างนี้การนับ f-stop) ภาพโดย  Robin Parmar
มันยังมีค่าแกว่งไปมาในช่วงกึ่งกลางด้วย ดังนั้นค่าที่ได้จะอยู่ประมาณ f/7 ถึง f/10 ที่จะทำให้ภาพคมชัด เมื่อคุณได้รู้ถึงค่ากึ่งกลางของเลนส์คุณแล้ว คุณสามารถลองทดสอบอย่างง่ายๆ เพื่อให้ได้ภาพคมชัดที่สุด การทดสอบคุณจะต้องถ่ายด้วยโหมด Aperture Priority
ควบคุมโหมด Aperture Priority
การถ่ายด้วย Aperture Priority จะทำให้คุณเลือกค่ารูรับแสงที่ต้องการ ซึ่งมันช่วยให้คุณควบคุมได้ดีกว่าการใช้โหมด Automatic โดยการควบคุมค่ารูรับแสง มันง่ายมากกว่าที่ทำให้ภาพคมชัดและเพราะว่ากล้องของคุณยังคงเลือกค่า ISO (ถ้าคุณตั้งค่าใช้ Auto ISO) และความเร็วชัตเตอร์แบบอัตโนมัติ มันง่ายในการใช้งานมาก
คุณคงเคยได้ยินค่ารูรับแสงที่ f/16 และ f/22 เป็นค่าที่ดีที่สุดเพื่อให้ทุกอย่างที่ถ่ายอยู่ในโฟกัส มันอาจเป็นความจริง การโฟกัสไม่ได้ทำทุกอย่างคมชัดเท่ากัน การเลือกค่ากึ่งกลางของรูรับแสงจะให้ความชัดกว่าของภาพทั้งหมด คุณสามารถพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้โดยการลดอาการสั่นของกล้องโดยใช้ขาตั้งกล้องและตัวรีโมทชัตเตอร์ (หรือใช้การตั้งเวลาถ่ายในกล้องของคุณ)
นี้คือตัวอย่างการถ่ายด้วยจุด sweet spot อย่างไรที่ทำให้ภาพของคุณคมชัด
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ....ในสภาพด้านบนที่แบ่งออกเป็นสองภาพ ภาพที่ถ่ายด้วยรูรับแสง f/9 มีความคมชัดมากกว่า f/22  ปลายสนและเงาไม่นุ่มหรือเบลอเท่ากับค่ารูรับแสง f/22 ( ลองดูที่ความคมและประกายของหิมะด้วย)
เปลี่ยนจากโหมด Automatic มาเป็นโหมด Aperture Priority
เพื่อให้กล้องของเราไม่ใช้โหมด Automatic และให้ปรับมาเป็นโหมด Aperture Priority แทน เพียงแค่หมุนปุ่มโหมดมาที่ Aperture Priority นี้คือหน้าตาของปุ่มโหมดบนกล้อง Canon ของฉัน (บนกล้อง Nikon หรือยี่ห้ออื่นๆ จะใช้ ตัวอักษร A) (ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ) ตัวโหมด Automatic จะมีเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเขียว ส่วนโหมด Aperture Priority คือคำว่า Av (หรือ A บนกล้อง Nikon) เมื่อกล้องของคุณได้ถูกตั้งเป็น Aperture Priority โหมดแล้ว ให้หมุนปุ่มเล็กกว่า (ที่แสดงอยู่ด้านบนของกล้อง Canon) เพื่อปรับเลือกค่า f-stop ของคุณ ขณะที่คุณหมุน คุณจะเห็นค่า f-number เปลี่ยนบนหน้าจอแสดงในภาพถัดไป มันถูกตั้งค่าไว้ที่ f/9.5 (ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
การทดสอบจุด Sweet Spot ของเลนส์
เมื่อกล้องของคุณได้ตั้งอยู่บนขาตั้งกล้องแล้วการทดสอบจุด sweet spot ของเลนส์ ก็ใช้เวลาไม่กี่นาที เริ่มต้นโดยการปรับกล้องของคุณไปใช้โหมด Aperture Priority จากนั้นก็จัดองค์ประกอบในกาถ่ายและลองถ่ายภาพด้วยค่ารูรับแสงที่ต่างกัน เริ่มจากค่ารูรับแสงที่กว้างที่สุดและถ่าย และหมุนปรับค่าไปเรื่อย (หมุนไปทางขวา) ทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ภาพมาสักเจ็ดหรือแปดภาพ
โหลดภาพที่ได้ของคุณลงไปที่เครื่องคอมฯ แล้วซูมภาพพวกนั้นมาดู คุณจะเห็นได้อย่างรวดเร็วเลยว่าค่ารูรับแสงไหนที่คุณใช้มันทำให้ภาพคมชัดมากที่สุดจากภาพทั้งหมด
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ....ภาพถ่ายถัดไปเป็นภาพลูกสาวของฉันที่ถ่ายโดยใช้แสงธรรมชาติ ถ่ายด้วยเลนส์ของฉันที่ใช้จุด sweet spot ที่ทำให้ภาพดูสวยงามคมชัด แม้ว่าจะมีสภาพแสงที่น้อยก็ตาม
เมื่อดึงภาพรูปแก้วชาเข้ามาใกล้ๆ แสดงให้เห็นข้อดีของการถ่ายภาพด้วยจุด sweet spot เมื่อไรก็ตามที่คุณต้องการให้แน่ใจว่าคุณได้ภาพที่คมชัดที่สุดที่เป็นไปได้ ให้ถ่ายที่ค่ากึ่งกลาง f/7, f/8, f/9 และ f/10
ถ่ายภาพให้คมชัดที่สุด ....เวลานี้คุณรู้เกี่ยวกับจุด sweet spot ในเลนส์ของคุณแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาฝึกฝน ฉันหวังว่าคุณจะได้ในสิ่งที่คุณชอบจากผลลัพท์ที่ได้
ฉันรักที่จะได้ด้วยแสงธรรมชาติ และเรียนรู้ว่าจะเก็บภาพให้คมชัดอย่างไรในสภาพแสงน้อยที่ทำให้มีความสุขมากในภาพถ่ายของฉัน
คำแนะนำในการถ่ายภาพให้คมชัดที่สุด:
•   ถ่ายด้วยโหมด Aperture Priority
•   เลือกค่ากึ่งกลางของค่ารูรับแสง (ประมาณ f/7 to f/10)
•   ใช้ขาตั้งกล้องและสายลั่นชัตเตอร์ (หรือตั้งเวลาถ่ายภาพในกล้องของคุณ) เพื่อลดการสั่นของกล้อง
•   ถ่ายภาพมาหลายภาพกับค่ารูรับแสงตั้งแต่ f/7 ไปถึง f/10 เมื่อการถ่ายภาพที่ต้องการความคมชัดเป็นสิ่งสำคัญ
แต่อย่าหยุดแค่นั้น ลองเล่นกับการตั้งค่า Aperture Priority ไปเรื่อยๆ มันน่าทึงมากที่ได้ภาพที่คมชัดทั่วภาพ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับค่ารูรับแสงและค่าชัดตื้นชัดลึก
คุณมีคำแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับจุด sweet spot ของเลนส์ที่อยากจะแบ่งปันอีกไหม? ถ้ามีโปรดนำมาแบ่งปันในช่องแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้