Author Topic: สี่ Ps คำแนะนำสำหรับการพัฒนาการถ่ายภาพแนวชีวิตสัตว์ป่า  (Read 5714 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
สี่ Ps  คำแนะนำสำหรับการพัฒนาการถ่ายภาพแนวชีวิตสัตว์ป่า

โพสโดย Richard Beech แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/the-4-ps-tips-for-improving-your-wildlife-photography/

การถ่ายภาพแนวชีวิตสัตว์ปาเป็นประสบการณ์ของสิ่งที่น่าประทับใจในการถ่ายภาพแบบหนึ่งที่คุณสามารถลองได้  จุดเด่นของสัตว์ที่อยู่ในป่าเป็นสิ่งที่โลดโผน ระทึกขวัญ และสามารถบันทึกการเคลื่อนไหวที่สามารถให้ผลคุ้มค่ากับการถ่ายภาพ อย่างไรก็ตาม ชีวิตสัตว์ป่าก็มีตัวแบบที่ท้าทาย ดังนั้นการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าบางครั้งก็ทำให้ผิดหวังได้เช่นกัน
เพื่อช่วยให้คุณได้สิ่งที่น่าสนใจของการถ่ายภาพชนิดนี้ นี้คือคำแนะนำที่จะช่วยพัฒนาการถ่ายภาพสัตว์ป่า

#1 การเตรียมตัว Preparation

ไม่ว่าสัตว์ป่าชนิดไหนที่คุณเลือกมาถ่ายภาพคุณจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้จักนิสัย การใช้ชีวิตประจำวันและการเคลื่อนไหว ให้อ่านชีวิตของตัวแบบก่อนล่วงหน้า หรือค้นหาในออนไลน์สำหรับวีดีโอ หรือไฟล์เสียงซึ่งสามารถช่วยคุณเรียนรู้ได้มากขึ้นกับตัวแบบที่คุณได้เลือกไว้ ถ้าเป็นไปได้ลองคุยกับผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ผู้ซึ่งรู้ที่อยู่และเวลาไหนเหมาะสมของสัตว์ป่าเหล่านั้น  ถ้าคุณกำลังมุ่งหน้าไปสู่สวนสาธารณะแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเพื่อถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจะช่วยให้คุณรู้ว่าจุดที่จะดูสัตว์หรือให้คำแนะนำเบื่องต้นได้
เพราะว่าคุณมีเวลาที่จำกัดในการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่า ให้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์กล้องของคุณซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก การทำความคุ้นเคยกับการทำงานของกล้องและเลนส์ก่อนที่คุณจะออกไปยังสถานที่จริงเพื่อว่าคุณจะไม่พลาดการถ่ายที่สำคัญซึ่งเกิดจากตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง
ก่อนที่คุณออกไป ให้แน่ใจว่าคุณเก็บอุปกรณ์ที่ต้องการใช้และมีการ์ดหน่วยความจำสำรองและแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มแล้ว สำหรับการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่า เลนส์เทเลโฟโต้คือสิ่งที่จำเป็น แต่อย่ามองข้ามการนำเลนส์มุมกว้างเพื่อเก็บภาพสัตว์ของคุณซึ่งเป้นส่วนหนึ่งของวิวทิวทัศน์ด้วย บางครั้งการถ่ายภาพสัตว์ป่าที่ดีที่สุดแสดงถึงสัตว์ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของมัน และไม่จำเป็นต้องตีกรอบถ่ายภาพหน้าเต็มของสัตว์เหล่านั้น ถ้าคุณกำลังใช้เลนส์เทเลฯ ขาตั้งกล้องสามขาหรือขาเดียวสามารถช่วยให้กล้องสั่นไหวน้อยลง ขาตั้งกล้องแบบขาเดียว (Monopod) จะยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้ายมากกว่า ขาตั้งแบบสามขา (Tripod) เมื่อคุณกำลังถ่ายภาพที่ติดตามสัตว์ป่าที่มีการเคลื่อไหว แต่ยังคงสามารถเพียงพอที่ทำให้กล้องนิ่งและได้ภาพที่คมชัด
ตรวจสอบรายงานสภาพอากาศสำหรับวันที่คุณกำลังจะออกไปถ่ายภาพ แต่ไม่จำเป็นที่จะเลื่อนออกไปในวันที่อากาศแย่ สัตว์ต่างๆยังคงใช้ชีวิตในช่วงฝนตกหรือวันที่มีพายุ และมันเป็นไปได้ที่จะได้ถ่ายภาพบางพฤติกรรมในสภาพแวดล้อมของมัน คุณสามารถซื้อตัวป้องกันชนิดพิเศษสำหรับกล้องและเลนส์จากสภาพอากาศที่เปียก บางที แค่ถุงพลาสติกกับหนังสติ๊กสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
ก็คงเหมือนกับการถ่ายภาพในแนวอื่นๆ แสงเป็นกุญแจหลัก และแสงที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าคือช่วงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก สัตว์ต่างๆจะมีความกระตือรือร้นมากในช่วงเวลานี้ของวัน บางครั้งก็กำลังหาอาหาร ดังนั้นให้แน่ใจว่าคุณตื่นแต่เช้าและพร้อมถ่ายภาพในช่วงแสงสีทองขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้น การถ่ายภาพในช่วงดวงอาทิตย์ตกสามารถเปลี่ยนตัวแบบธรรมดาให้เป็นบางสิ่งที่พิเศษได้ ลองค้นหาโอกาสในการเก็บภาพชีวิตสัตว์ป่าแบบเงาดำ (silhouettes) ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตก (ลองดูภาพด้านล่าง ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)

#2 การฝึกฝน Practice

เหมือนกับการถ่ายภาพแบบอื่นๆ การวางองค์ประกอบภาพสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างภาพที่ดีและภาพที่เยี่ยมยอดได้ เมื่อการวางองค์ประกอบในการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าให้จำคำแนะนำการวางองค์ประกอบภาพพื้นฐานเอาไว้ให้ดี เช่น กฎสามส่วนที่ทรงอิทธิพล ถ้าตัวแบบของคุณกำลังมองไปทางด้านซ้ายหรือขวา ให้เรามีเนื้อที่ว่างๆเหลือในกรอบภาพซึ่งอยู่ด้านที่ตัวแบบกำลังมองไป คำแนะนำนี้ยังคงใช้ได้เช่นเดียวกันถ้าสัตว์เคลื่อนที่ไปด้านใดก็ให้เปิดพื้นที่ในภาพสำหรับพวกมันในการเคลื่อนที่ไว้ด้วย
ลงต่ำให้อยู่ระดับสายตา (หรือต่ำกว่า) กับสัตว์ที่จะทำให้เกิดภาพที่มีชีวิตชีวา การถ่ายภาพสัตว์จากการยืนแล้วมองลงมาที่พวกมันจะทำให้ขาด คุณสมบัติ “ภาพที่ต้องร้องว้าว” เนื่องจากมุมที่เราอยู่เป็นมุมที่เราใช้ในการมองสัตว์ป่า การนอนราบไปกับพื้นเพื่อว่าคุณจะได้อยู่ระดับสายตา หรือมองขึ้น ซึ่งทำให้สัตว์ที่คุณเลือกเป็นตัวแบบจะดูใหญ่และมีพลัง และสามารถเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆให้กับภาพสุดท้ายของคุณด้วย
กฎของการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าขั้นพื้นฐานคือ ตาของตัวแบบต้องอยู่ในโฟกัส อย่างไรก็ตาม ระบบออโต้โฟกัสในกล้องของคุณสามารถหลอกในการล๊อคโฟกัสในจุดอื่นของสัตว์ได้อย่างง่ายๆ หนทางที่จะช่วยในสิ่งนี้คือการตั้งค่ากล้องให้อยู่ในโหมด การโฟกัสจุดเดียว (AF-S สำหรับคนใช้กล้องนิคอน) เลือกจุดกึ่งกลางเป็นจุดโฟกัสในช่องมองภาพ ทำการล๊อคโฟกัสไปที่ดวงตาโดยการกดปุ่มชัตเตอร์ไปครึ่งหนึ่ง และเมื่อเรายังไม่ได้ปล่อยปุ่มชัตเตอร์ที่กดไว้ ให้คุณทำการจัดองค์ประกอบภาพ แล้วค่อยถ่ายภาพ เพิ่มเติมในการโฟกัสที่สมบูรณ์แบบบนดวงตา  สัตว์ป่าส่วนใหญ่มีแววตาในดวงตาของมัน แฟลช หรือ speedlight ที่อยู่บนกล้องของคุณสามารถทำให้เกิดประโยชน์สำหรับการเพิ่มแสงในดวงตาที่มืดเมื่อคุณทำการถ่ายภาพสัตว์ในระยะประชิด
การจะได้โฟกัสที่ถูกต้องกลายเป็นสิ่งที่ยากเมื่อการถ่ายภาพสัตว์ที่มีการเคลื่อนที่ สำหรับสัตว์ป่าที่เคลื่อนที่ให้เลือกระบบออโต้โฟกัสเป็นแบบต่อเนื่อง เช่น AI Server (AF-C) และเลือกจุดโฟกัสเดียวในช่องมองภาพ ติดตามการเคลื่อนไหวโดยให้จุดโฟกัสลงที่ตัวแบบให้แน่ใจมันยังคงโฟกัสตามตลอดเวลาไม่ใช่โฟกัสไปที่ฉากหน้า หรือฉากหลัง
ถ่ายภาพด้วยโหมด Aperture Priority ซึ่งมันมีประโยชน์มากสำหรับการถ่ายภาพสัตว์ป่า โดยการใช้รูรับแสงกว้างที่สุด (เช่น f/2.8) คุณจะสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่จำเป็นนการทำให้ภาพคมชัด ยิ่งชัดตื้นชัดลึดยิ่งแคบจากการใช้รูรับแสงที่กว้าจะช่วยให้ฉากหลังเบลอ และอีกอย่างหนึ่งจะช่วยแยกตัวแบบและทำให้มันโดดเด่นในภาพด้วย
อย่ากลัวในการเพิ่มค่า ISO เล็กน้อยเพื่อที่จะให้ความเร็วชัตเตอร์เร็วขึ้น ถ้าถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมที่แสงหายาก เช่นในป่าที่หนาทึบ การทีมีน้อยส์เล็กน้อยในภาพยอมรับได้ (และมันง่ายในการแก้ไขถ้าคุณต้องการ)มากกว่าภาพที่ไม่เข้าโฟกัส หรือภาพที่เบลอ

#3 ความพยายามมานะอุสาหะ  Perseverance

ขณะที่เราปฎิเสธไม่ได้ว่าจำนวนครั้งที่แน่นอนของความโชคดีที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่เป็นกุญแจในการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าคือ ความอดทน ไม่จำเป็นในการอดทนเพื่อต้องการสำหรับตัวแบบของคุณปรากฎขึ้นแต่ความอดทนในการเก็บภาพอย่างสมบูรณ์คือสิ่งที่คุณมองเห็น
เมื่อคุณพบสัตว์ที่ออกมาจากป่า เฝ้ามองมันนานเท่าที่ไปได้และไม่ใช่จากด้านหลังช่องมองภาพ ใช้เวลากับมันและเรียนรู้วิถีชีวิตมัน ขณะที่เฝ้ามองสัตว์ พยายามเก็บภาพในพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในสัตว์ประเภทนั้น จดบันทึกพฤติกรรมที่สามารถสร้างภาพชีวิตสัตว์ป่าที่กระตุ้นความสนใจ สิ่งที่สำคัญที่สุด สนุกกับประสบการณ์การเฝ้ามองสัตว์ป่าเท่าๆ กับการถ่ายภาพ
คำแนะนำที่รวดเร็วหนึ่งอย่างคือ ปล่ยอให้มันมีเสียง (ขณะที่เงียบอยู่ ไม่ใช่เสียงของกล้อง) เกิดขึ้นให้น้อยที่สุดเมื่อคุณกำลังถ่ายภาพสัตว์ป่า แต่งกายให้เหมาะสม ก้าวเดินอย่างระมัดระวัง และที่สำคัญที่สุดถ้าเป็นไปได้ให้เปลี่ยนโหมดมือถือของคุณเป็นระบบสั่น ไม่มีอะไรจะเลวไปกว่าขณะที่จะถ่ายภาพซึ่งตัวแบบของคุณเกิดตกใจโดยเสียงของโทรศัพท์ดังขึ้น
บางทีก็มีช่วงเวลาที่ดีของการรอคอยและการเฝ้ามอง พยายามอย่าไปโฟกัสที่ตัวแบบเดียว มองไปรอบๆขณะที่คอยตัวแบบของคุณกลับมา คุณไม่เคยรู้หรอกว่าบางครั้งมีบางสิ่งที่ดีน่าสนใจมากกว่าคอยอยู่รอบๆ
ถ้าคุณต้องการฝึกฝนมากกับการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าแต่ไม่มีเวลามากนัก สวนสาธารณะสามารถเป็นสถานที่ที่เยี่ยมในการไปเยือนช่วงมื้อเที่ยงหรือหลังเลิกงาน สวนสาธารณะดึงดูดสัตว์ป่าหลายอย่างเข้ามาเช่น ห่าน หงส์ หรือกวางและบ่อยครั้งคุณสามารถเข้าไปใกล้กว่าในการถ่ายภาพ เป็นในสระน้ำสามารถสร้างโอกาสสำหรับภาพการเคลื่อนไหวและมันยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนทักษะของคุณที่ไม่ต้องไปไหนไกล

#4 ความหลงใหล ความชอบ Passion

การถ่ายภาพสัตว์ป่าจากดีไปถึงยอดเยี่ยม คุณต้องการความชอบและหลงใหลเกี่ยวกับโลกของธรรมชาติที่คุณกำลังถ่ายภาพ ใช้เวลาในการชื่นชมธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่าในทุกๆ รูปแบบเมื่อไรก็ตามที่คุณพบมัน คุณไม่ต้องออกไปในที่ต่างถิ่นเพื่อจะถ่ายภาพสัตว์ป่าที่เยี่ยมยอด ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพมาโครซึ่งมีโอกาสถ่ายภาพสัตว์ป่าหลายชนิดรวมถึง แมงมุม เต่าทอง และแมลงวัน ขณะที่บางคนผู้ซึ่งกลัวสัตว์เหล่านี้อย่างมาก ผมรู้สึกซาบซึ้งกับแมงมุมสวยๆ และตั้งแต่ผมถ่ายภาพพวกมัน ผมพบว่าผมหลงรักพวกมันมากกว่าที่จะกลัว
คุณสามารถทำการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ เพียงเล็กน้อยของสวนในบ้านคุณเองเพื่อดึงดูดสัตว์ป่าต่างๆ ให้มาหาคุณ การทำสวนสำหรับสัตว์ป่าให้ดูเป็นมิตรทำได้โดยไม่แพงและประโยชน์ที่ได้รับสำหรับสัตว์ป่าท้องถิ่นมีสูงมาก การเพิ่มสระหรือสวนดอกไม้คือสองสิ่งที่ดีสำหรับสภาพแวดล้อมและยังเปิดโอกาสการถ่ายภาพให้คุณอีกด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุด ให้คุณระมัดระวังเมื่อกำลังถ่ายภาพแนวชีวิตสัตว์ป่า อย่าให้ตัวคุณหรือสัตว์ป่าอยู่ในความเสี่ยงและอย่าไปรบกวนสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของพวกมันเพียงเพื่อคุณต้องการถ่ายภาพ ให้ความเคารพกับสัตว์ป่าทุกๆ ชนิด เรียนรู้จักตัวแบบของคุณให้ดีและจะได้รางวัลกับภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมเพื่อไปอวดให้คนอื่นๆ ได้ดู และบันดาลใจให้พวกเขาได้ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในโลกนี้ให้มากขึ้นเหมือนกับตัวคุณ