แปดขั้นตอนง่ายๆในการถ่ายภาพเงาดำ
โพสโดย Darren Rowse แปลโดย Topstep07
เว็ปไซต์ต้นฉบับ เพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/how-to-photograph-silhouettes/โดยปกติผมจะพูดถึงความสำคัญของการใช้แฟลชเมื่อถ่ายภาพในช่วงดวงอาทิตย์ให้แสงเพียงพอที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวแบบ แต่บางทีก็ถึงเวลาที่จะทำให้แบบไม่น่าสนใจกลายเป็นการร่างภาพของพวกเขาจากความสว่างของพื้นหลัง หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาพเงาดำ
ภาพเงาดำคือสิ่งที่อัศจรรย์ที่ถ่ายทอดความมีชีวิตชีวา ความลึกลับ อารมณ์กับผู้ชมภาพของคุณแลบ่อยครั้งที่มันอยู่ในอัลบั้มเนื่องจากการผสมผสานในความเรียบง่าย แต่ยังคงมีเรื่องราวที่ถ่ายทอดไว้ ผมรักพวกมันเพราะพวกมันจะไม่ได้ความกระจ่างทุกๆ สิ่งกับผู้ชมภาพ แต่ได้ทิ้งบางส่วนของภาพเพื่อให้พวกเขาได้จินตนาการความน่าอัศจรรย์
กลยุทธ์พื้นฐานในการถ่ายภาพเงาดำ คือการให้เอาตัวแบบไปวาง (รูปร่างอะไรก็ได้ที่คุณต้องการให้มันดำ) อยู่ด้านหน้าของแหล่งกำเนิดแสง และให้กล้องถ่ายภาพของคุณตั้งค่าแสงที่เป็นค่าสว่างในภาพ (พื้นหลัง) และไม่ใช่ตัวแบบในภาพ ในการทำแบบนี้ตัวแบบของคุณจะมีค่าแสงที่ต่ำ (และมืดมาก ถ้าไม่ดำ)
มีหลายเทคนิควิธีที่ได้พรรณาไว้ว่าจะถ่ายภาพเงาดำที่เยี่ยมยอดได้อย่างไรซึ่งคุณควรจะลองหาดู แต่ลองให้ผมแนะนำขั้นตอนพื้นฐานที่จะทำให้คุณได้ผลลัพท์หลังจากนี้ สิ่งที่สำคัญคืออะไรก็ตามที่เรากำลังพยายามทำให้กล้องของคุณคิดว่าส่วนที่สว่างของภาพคุณน่าสนใจ และนี้คือสิ่งที่เราจะทำมัน
ถ่ายภาพเงาดำอย่างไร
1. เลือกหาตัวแบบที่ทรงพลัง
โดยทั่วไปแล้วตัวแบบอะไรก็ได้สามารถทำเป็นภาพเงาดำได้ อย่างไรก็ดีบางตัวแบบก็ดีกว่าตัวแบบอื่นๆ เลือกบางสิ่งที่ทรงพลังและมีรูปทรงที่น่าสนใจในลักษณะรูปทรงสองมิติเพื่อจะดึงดูดความสนใจของผู้ชมภาพของคุณ ภาพเงาดำไม่สามารถทำเป็นสี ลวดลาย และโทนของตัวแบบที่จะปรากฎ ดังนั้น รูปทรงที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่ต้องการ
2. ปิดการใช้แฟลช
ถ้ากล้องของคุณมีระบบ Auto มันจะใช้แฟลชในการถ่ายภาพซึ่งจะทำลายภาพเงาดำ ในขั้นเริ่มต้นคุณต้องการแสงที่น้อยบนด้านหน้าของตัวแบบของคุณเท่าที่จะเป็นไปได้ (ขั้นพื้นฐาน แต่ผมเคยเห็นการพยายามถ่ายภาพเงาดำโดยการยิงแฟลช)
3. หาแสงที่ถูกต้อง
เมื่อแสงมันส่องมาที่ตัวแบบคุณต้องโยนมันทิ้งออกไปจากสิ่งที่คุณเคยเรียนรู้มาในการถ่ายภาพและคิดในทางกลับกันแทนที่จะมีแสงด้านหน้าของตัวแบบ ในภาพเงาดำ คุณต้องแน่ใจว่ามีแสงส่องมาเพียงพอจากด้านหลังมากกว่าด้านหน้าในการถ่ายภาพ หรืออีกทางหนึ่ง คุณต้องการแสงยิงมาที่ด้านหลังของตัวแบบมากกว่าด้านหน้า แสงที่สมบูรณ์แบบสำหรับที่จะใช้กับตัวแบบของคุณที่อยู่ด้านหน้าแสงดวงอาทิตย์ขึ้น และตก แต่จริงๆ แล้วแสงสว่างอะไรก็ได้ที่สามารถทำสิ่งนี้ได้
4. การจัดกรอบภาพ
จัดกรอบภาพในการถ่ายเพราะคุณกำลังถ่ายภาพกับตัวแบบเรียบๆ ที่อยู่ด้านหน้ากับแสงสว่างที่อยู่ในฉากหลัง แต่ฉากหลังที่ดีที่สุดจะเป็นความสว่างของวันที่ไม่มีเมฆบนท้องฟ้ากับดวงอาทิตย์ที่ส่องมา คุณต้องวางตำแหน่งแหล่งกำเนิดแสงที่สว่างมากอยู่ด้านหลังตัวแบบ (หรือไม่ก็ซ่อนพวกมันเพื่อให้มันอยู่ในฉากหลังที่ใดที่หนึ่ง)
5. ให้รูปทรงของภาพเงาดำแยกออกอย่างชัดเจน และไม่ยุ่งเหยิง
ถ้ามีรูปทรงหรือวัตถุมากกว่าหนึ่งสิ่งในภาพที่คุณพยายามจะถ่ายภาพเงาดำ ลองให้พวกมันอยู่แยกต่างหาก ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจะถ่ายภาพเงาดำต้นไม้และคน อย่าให้คนอยู่ด้านหน้าต้นไม้หรือยืนพิงต้นไม้ซึ่งมันจะรวมเข้าเป็นรูปทรงเดียวและมีผลทำให้ผู้ชมภาพของคุณสับสนเกี่ยวกับรูปทรงว่ามันคืออะไร เมื่อเราจัดโครงสร้างร่างกายในการถ่ายภาพเงาดำผู้คนจะต้องถ่ายรูปหน้าด้านข้างมากกว่าการถ่ายภาพหน้าตรง ความหมายคือเห็นรูปทรงของพวกเขาที่เด่นชัด (จมูก ปาก หรือตา) จะเป็นเส้นรอบนอกหรือภาพร่างและพวกเขาสามารถจำได้
6. ในโหมดออโต้
ในกล้องถ่ายภาพที่ทันสมัยจะมีการวัดค่าแสงแบบออโต้ซึ่งดีมากในการวัดค่าแสงบนภาพเพื่อว่าทุกๆ สิ่งจะออกมาดี ปัญหาคือกล้องมันจะฉลาดที่จะให้ตัวแบบสว่างแทนที่จะมีค่าแสงที่ต่ำเพื่อจะได้ภาพเงาดำ ดังนั้นเราต้องหลอกพวกมัน กล้องทั่วไปจะวัดค่าระดับค่าแสงในโหมดออโต้เมื่อคุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง (ในเวลาเดียวกับการโฟกัส) ดังนั้นคุณต้องให้กล้องของคุณเล็งไปที่ส่วนสว่างของภาพและกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่ง (อย่าปล่อยมัน) ดังนั้นให้คุณหันกลับมาที่เฟรมภาพที่คุณต้องการถ่ายตัวแบบที่คุณต้องการและก็ถ่ายภาพนั้น ถ้าเป็นกล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะให้ผลลัพท์ภาพเงาดำกับตัวแบบ ในการหลอกแบบนี้เพื่อให้กล้องคิดว่าส่วนที่สว่างของภาพคือค่าเท่ากลางดังนั้นทุกๆสิ่งจะมืดกว่า มันจะถ่ายภาพที่มีเงาสีดำอย่างส่วยงาม
กล้องดิจิตอลบางตัวจะมีการวัดค่าแสงแบบ “จุดเดียว” หรือ “ตรงกลาง”ซึ่งคุณสามารถใช้มันซึ่งช่วยกับเทคนิคที่อยู่ข้างต้นได้ดี ซึ่งพวกมันจะตั้งค่าวัดแสงอยู่ตรงกลางของภาพมากกว่าวัดค่าแสงจากหลายๆส่วนในภาพ มันหมายถึงว่าคุณจะบอกกล้องอย่างแน่นอนว่า ส่วนที่สว่างด้านหลังเล็กๆที่คุณต้องการคือค่าแสงที่ต้องวัด
7. โหมด Manual
ถ้าเทคนิคนี้ไม่ได้ผลและกล้องของุณมีการควบคุมที่อนุญาตให้ตั้งค่าวัดแสงแบบ manual หรือ การชดเชยแสง คุณอาจจะชอบที่จะตั้งค้ด้วยตัวเอง สิ่งสวยงามของกล้องดิจิตลคือคุณสามารถทดลองในใจจนกระทั่งคุณได้ภาพ
ทางที่ง่ายในการเริ่มใช้โหมด Manual คือมองหาความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงซึ่งมันจะแนะนำในโหมด Auto และเริ่มจากที่นั่นถ้าโหมด Auto วัดค่าแสงบนตัวแบบของคุณสว่างมากไป (ตัวอย่าง คุณต้องทำให้มืดกว่า) ลดค่า stop ของความเร็วชัตเตอร์ หนึ่งหรือ สอง stop และดูว่ามันมีผลกระทบอย่างไร การใช้เทคนิค “การถ่ายภาพคร่อม” ซึ่งผมได้อธิบายคำแนะนำไว้ก่อนหน้านี้กับดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เพื่อให้ได้ภาพถ่ายหลายๆภาพที่มีค่าแสงที่แตกต่างกัน
8. การโฟกัส
ในบางสถานการณ์คุณต้องการให้ตัวแบบถูกถ่ายเป็นเงาดำซึ่งเป็นสิ่งที่โฟกัสหลุดง่าย นี้คือสิ่งที่ได้อธิบายไว้ในหัวข้อที่ 4 ที่มันสามารถหลอกคุณในขณะที่คุณกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่งเพื่อจะได้ค่าที่ถูกต้องซึ่งคุณจะโฟกัสไปยังจุดในฉากหลัง เพื่อให้ได้ในสิ่งนี้ คุณต้องใช้กลวิธีอยู่ 2 อย่าง หนึ่งถ้ากล้องคุณโฟกัสแบบ manual คุณต้องเตรียมโฟกัสไว้ก่อนล่วงหน้าก่อนที่คุณจะวัดค่าและถ่าย สองใช้ค่ารูรับแสงที่มากสำหรับค่าชัดตื้นชัดลึก (สิ่งที่คุณต้องการให้ภาพอยู่ในโฟกัส) ตั้งค่ารูรับแสงที่เล็ก (เช่น จำนวนที่มาก) เพื่อเพิ่มค่าชัดตื้นชัดลึก ซึ่งมันหมายถึงคุณจะมีความคมชัดในฉากหน้าและฉากหลังในการถ่ายภาพ
ข้อแนะนำสุดท้ายสำหรับการถ่ายภาพเงาดำ ขณะที่ภาพเงาดำที่มีความสะอาดเรียบร้อยและตัวแบบมีสีดำเป็นการถ่ายที่ทรงพลัง ต้องพิจารณาบางส่วนของภาพเงาดำที่ซึ่งรายละเอียดของตัวแบบจะหายไป บางครั้งแสงที่ตกกระทบบนตัวแบบก็ทำให้เกิดภาพสามมิติ และดูสมจริง นี้คือการถ่ายภาพคร่อมที่สวยงามขณะที่มันทิ้งให้คุณได้เลือกว่าจะเก็บทั้งหมดหรือบางส่วนของภาพเงาดำ