Author Topic: ห้าคำแนะนำที่ช่วยให้คุณช้าลงและถ่ายภาพได้ดีกว่า  (Read 3705 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
ห้าคำแนะนำที่ช่วยให้คุณช้าลงและถ่ายภาพได้ดีกว่า
โพสโดย Simon Ringsmuth แปลโดย Topstep07
เว็ปไซต้นฉบับ เพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/5-tips-help-slow-take-better-photos/
เมื่อคุณออกไปถ่ายภาพมันสามารถยั่วยวนใจให้เริ่มถ่ายในทางที่ถูกต้องกับเป้าหมายที่คิดไว้ว่าอยากจะได้ภาพอะไรและจับภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่ก่อนที่คุณจะเอากล้องออกมามันอาจจะดีที่จะทำในทางตรงข้ามกันและช้าลง  การช้าลง ลองใช้เวลาสักครู่ในการพิจารณาถึงบทเรียนในนิยายในสมัยเด็กคือเรื่องเต่ากับกระต่ายป่า การเหน็บแนม สิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่งซึ่งคุณสามารถทำเมื่อแรงบันดาลใจเข้ามาคือการเคลื่อนที่ช้าๆเหมือนอย่างเต่าดีกว่าไปอย่างรวดเร็วเหมือนกระต่ายป่า แม้ว่าเต่าอาจจะไม่ใช่สัตว์ที่เคลื่อนตัวเร็วในทุ่งนา แต่มันก็เดินไปและถึงเส้นชัยขณะที่กระต่ายป่ารู้สึกเหนื่อยอ่อนในการแข่งขันและยอมแพ้โดยสิ้นเชิง เหมือนกับช่างภาพมันมีความยั่วยวนเหมือนกระต่ายป่าและพยายามแข่งขันในการถ่ายภาพให้สมบูรณ์ที่สุด แต่ถ้าคุณดูเต่าคุณจะเห็นว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีในการติดตาม
และนี้คือห้าคำแนะนำที่ช่วยให้คุณช้าลงและถ่ายภาพได้ดีกว่า
1. ศึกษาสิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวคุณ
สิ่งที่เป็นตัวสำคัญสิ่งหนึ่งในการถ่ายภาพคือ กรอบภาพ ตัวแบบของคุณได้ถูกวางองค์ประกอบที่เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างไร? คุณอาจจะพิจารณาถึงตัวแบบในภาพของคุณ (เด็กๆ, ยานพาหนะ, รูปปั้น, ดอกไม้ และอื่นๆ) แต่ก่อนที่คุณจะได้ภาพลงบน SD การ์ด ลองใช้เวลาไม่กี่นาที หรือมากกว่าในการพิจารณาถึงตัวแบบที่มีความสัมพันธ์กับทุกๆสิ่งในบริเวณนั้น ตัวอาคาร บ้าน หรือสิ่งที่ถูกสร้างด้วยมือมนุษย์สามารถทำให้ตัวแบบเด่นตระหง่านได้ไหม? สิ่งแวดล้อมธรรมชาติเช่น ต้นไม้ พุ่มไม้หรือโครงสร้างหิน สามารถที่จะเน้นหรือสร้างสีสันให้กับตัวแบบคุณได้ไหม? โดยการหยุดพิจารณาทุกๆสิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวแบบ คุณจะสามารถตัดสินใจได้ดีกว่าว่าคุณจะเก็บภาพในขณะนั้นอย่างไร
เมื่อผมมองรูปปั้น Saint Francis ในวันที่ฟ้าหม่นตอนเช้า ผมได้พิจารณาไม่เพียงแต่รูปปั้นครึ่งตัวแต่อย่างอื่นที่ช่วยในการจัดกรอบภาพด้วย  ทางเลือกที่เร็วที่สุดและสะดวกคือการเล็งกล้องของผมต่ำลงและจับภาพ แต่โดยการทำให้ช้าลงและใช้เวลาในการพิจารณาทุกๆสิ่งที่อยู่ล้อมรอบรูปปั้นนั้น มันคือผลลัพท์ที่ได้ภาพที่น่าประทับใจ ผมจบลงด้วยการย่อตัวลงให้ต่ำถึงพื้นและใช้ฉากหลังเพื่อให้ผู้ชมได้รู้สึกถึงช่องว่างและสิ่งแวดล้อม โดยการพิจาณาถึงสิ่งแวดล้อมและใช้เป็นตัวเลือกของผมในการถ่ายภาพ ผมสามารถได้ภาพที่ดีกว่าวิธีอื่นที่ผมมี


2. คอยแสง
คุณอาจจะไม่ต้องมีแฟลชตัวใหญ่ๆ หรือ ไฟสตูฯและsoftbox แต่คุณสามารถได้ภาพที่น่าอัศจรรย์โดยการใช้แหล่งกำเนิดแสงที่ดีที่สุดจากทุกๆที่ นั่นคือ แสงอาทิตย์ ในอีกแง่หนึ่งคุณต้องมีความอดทนถ้าคุณต้องการใช้มันในการเติมเต็ม มันอาจจะไม่ง่าย แต่มีเทคนิคที่ดีที่สุดที่คุณสามารถใช้ข้อดีของแสงธรรมชาติได้คือการอดทนและการรอคอยจนกระทั่งมันเหมาะสมกับความต้องการในภาพถ่ายของคุณ วันที่ฟ้าสว่างแจ่มใสไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการออกไปถ่ายภาพ ขณะที่ดวงอาทิตย์ตั้งตรงมันทำให้เกิดแสงแข็งกระด้างและทำให้มีความเปรียบต่างสูงโดยเฉพาะถ้ามีต้นไม้ ตึกอาคารหรือสิ่งอื่นที่ทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่
แทนที่จะใช้วิธีการเดียวกับเต่าและคอยจนกระทั่งดวงอาทิตย์อยู่ต่ำลงบนเส้นขอบฟ้า ชั่วโมงหรือก่อนดวงอาทิตย์ตกคือเวลาที่ดีที่สุดที่จะออกไปเก็บภาพ ขณะที่ดวงอาทิตย์ทำมุมต่ำมันก็สร้างแหล่งกำเนิดแสงที่น่าพึงพอใจอย่างมากกว่าเมื่อดวงอาทิตย์อยู่กลางศีรษะ อีกช่วงเวลาที่ดีในการถ่ายภาพที่เป็นธรรมชาติคือหลังดวงอาทิตย์ตก ขณะที่คุณยังคงอยู่มุมต่ำและมีสีอุ่น ผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่อถ่ายภาพนี้ที่เป็นรูปปั้นสีทองแดงผู้ซึ่งบางคนตกแต่งด้วยพวงมาลัย แต่โดยการคอยเพื่อให้แสงอาทิตย์ส่องมาตามที่ผมต้องการ ดีกว่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น ผมสามารถได้ภาพที่ดีกว่า มันอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่เร็วที่สุดแต่มันก็ทำให้ได้ภาพที่ดีกว่า
3. เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
การถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่าไม่จำเป็นจะต้องมีเลนส์เทเลฯ แต่มันต้องการความอดทน ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพสัตว์ที่อยู่รอบตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้าหลังบ้าน หรือการปีนขึ้นไปบนภูเขา สิ่งที่ดีที่สุดคือการอดทนและปล่อยให้ธรรมชาติเข้ามาหาเรา สัตว์ต่างๆจะได้ยินคุณกำลังเข้ามาและมันก็จะหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าคุณปักหลักในจุดที่ดีและคอยพวกมัน คุณจะได้การตอบแทนกับโอกาสการถ่ายภาพที่มีอิทธิพลกับพวกมัน ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมต้องการถ่ายภาพกะรอก ผมเริ่มจากการติดตามมันที่อยู่รอบๆขณะที่มันมองหาเม็ดถั่วและผลของต้นโอ๊ก ผมตระหนักว่านี้คือแบบฝึกหัดที่ไร้ประโยชน์ขณะที่มันวิ่งหนีไปจากผม ดังนั้นผมจึงเลือกหนึ่งที่ที่จะอยู่และคอยมัน หลังจากนั้นไม่นานมันก็คลานจากด้านหลังและเริ่มคุ้ยหารอบๆใกล้ตัวผม และผมก็สามารถที่จะได้ภาพมัน (ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ธรรมาชาติเป็นสิ่งที่เอาแน่นอนไม่ได้และบ่อยครั้งที่จะปฎิเสธกับการเชื่อฟังอะไรก็ตามที่ดูเหมือนจะมีเหตุผล (“อยู่ตรงนั้นนะเจ้านกน้อย...ไม่ ไม่นะอย่าบินหนี) แต่ถ้าคุณใช้เวลาในการเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ และปล่อยให้พวกมันเข้ามาหาคุณ คุณจะได้รับสิ่งตอบแทนกับภาพที่ดีกว่าที่คุณจะเร่งรีบมัน

4. ปล่อยให้เด็กๆ เป็นตัวของเขาเอง
การพยายามถ่ายภาพเด็กๆให้ดีนั้นสามารถทำได้ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่วันเกิด หรือการไปสวนสาธารณะตอนบ่าย สำหรับหลายคนโดยสัญชาตญาณทุกอย่างจะอยู่ในการควบคุม “ทุกๆ คนมองทางนี้” พูดว่า ชีสสส” สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เด็กคนหนึ่งจะยิ้ม คนหนึ่งจะกระพริมตา คนหนึ่งจะเริ่มออกไปข้างๆ และเด็กบางคนก็ร้องไห้ มันดูเหมือนว่าการถ่ายภาพเด็กๆให้ดีนั้นเป็นไปไม่ได้เลย แต่ขอบคุณ มันยังมีความหวัง แทนที่เราจะเร่งรีบเหมือนกระต่ายป่าในการสร้างบัตรเชิญในการถ่ายภาพ ลองทำในวิธีตรงกันข้ามและปล่อยให้เด็กๆ ได้เล่น ตั้งกล้องของคุณให้พร้อม และใช้มันในการจับภาพเด็กๆ ขณะที่เขาป็นตัวของเขาเอง คุณสามารถที่จะคอยเป็นบางช่วง แต่คุณ (และเด็ก) จะรู้สึกสนุกกับมันในวิธีการแบบนี้   (ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ผมถ่ายภาพลูกสาวเพื่อนขณะที่เขาและลูกชายผมกำลังเล่นในสนามที่สกปรก แม้ว่าจะใช้เวลาสักพักและผมต้องมายุ่งกับการปรับแต่งภาพ ผมจบด้วยภาพที่มีความน่าสนใจมากกว่าการถ่ายก่อนหน้านี้ ข้อดีของวิธีการนี้มันเกิดขึ้นหลังหนึ่งเดือนผ่านไปเมื่อคุณกำลังมองที่ภาพของคุณ การโพสท่าถ่ายรูปเด็กๆกำลังยิ้มมาที่กล้องอาจจะดูเป็นความคิดที่ดี แต่หลังจากนั้นคุณพบว่ามันไม่น่าสนใจเหมือนกับการที่ปล่อยให้เด็กๆ กำลังเล่นและแสดงท่าทางตามธรรมชาติของเขา แต่ถ้าคุณไม่มีความตั้งใจในการอดทนและคอยสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น พวกเขาก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็วและจะหายไปตลอดกาลโดยปราศจากการสังเกต
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)  ไม่มีห้องสตูดิโอ ไม่มีกล้องพิเศษอะไร เพียงแต่แสงอาทิตย์และความอดทน
5. เรียนรู้ฟังก์ชั่นกล้องใหม่และเรียนมันอย่างดี
กล้องถ่ายภาพในปัจจุบันนี้มีหลายทางเลือก ปุ่มกด และหมุน ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆ คนถ่ายในโหมดออโต้ และผมก็จะไม่กล่าวโทษพวกเขาที่ทำแบบนั้น การเรียนรุ้ในการใช้งานกล้องของคุณสามารถกลายเป็นงานที่น่ากลัวและถ้าการถ่ายภาพด้วยโหมดออโต้แล้วได้ภาพที่ดีเพียงพอ ทำไมต้องไปดูเมนูหรือปุ่มบิดละ? ผมเห็นหลายๆคนพยายามที่จะเรียนรู้วิธีการปรับกล้องเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ดีกว่า แต่ก็ล้มเลิกในความสับสนเพราะมันมากมาย ข้อแนะนำคือเลือกมาหนึ่งอย่างและเรียนรู้มันและในการปรับค่าที่แตกต่างมากมายและภาพถ่ายจะค่อยๆเริ่มตามมา
ตัวอย่าง ถ้าคุณถ่ายในโหมดออโต้ พยายามเปลี่ยนมาใช้ โหมดค่ารูรับแสง (AV หรือ A บนกล้องของคุณ) และเรียนรู้ในการควบคุมค่ารูรับแสงในกล้องของคุณเพื่อให้ได้ภาพที่ดี อย่าไปกังวลกับความเร็วชัตเตอร์, ISO, หรือไวท์บาลานซ์, AE-L หรืออะไรก็ตาม ทุกสิ่งมันสำคัญแต่มันคอยได้ เมื่อคุณใช้เวลากับมันสักระยะหนึ่ง อาจจะหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หรือนานกว่านั้นในการลองปรับค่ารูรับแสง ดังนั้นให้เราเปลี่ยนไปโหมดอื่น เช่น โหมดชัตเตอร์ (S หรือ TV บนกล้องของคุณ) ขณะที่คุณควบคุมความเร็วชัตเตอร์และปล่อยให้กล้องควบคุมในส่วนที่เหลือ คุณจะเริ่มเห็นว่าแต่ละรูปแบบทำงานอย่างไร (รูรับแสง ชัตเตอร์ และ ISO) ที่มีผลกับอีกอันหนึ่ง และจะควบคุมพวกมันอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพท์การถ่ายที่อัศจรรย์ซึ่งมันช่วยในการหลบหลีกความเข้าใจของคุณ
โดยการที่ติดอยู่กับเลือกใช้ฟังก์ชั่นหนึ่งในกล้องใหม่ของคุณ คุณอาจจะไม่ได้เรียนรู้ทุกๆสิ่งที่เกี่ยวกับกล้องของคุณเร็วเท่ากับคุณต้องการ แต่คุณจะต้องหลีกเลี่ยงความสับสนและความเหนื่อยล้าซึ่งเกิดจากความพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากมายในครั้งเดียว  หลังจากที่กระต่ายป่าอาจจะออกตัวเร็ว แต่เราก็รู้ว่าจะหยุดอย่างไร ในการถ่ายภาพมันใช้เวลาเหมือนกับเต่า การเริ่มต้นช้าอาจจะดูเหมือนเป็นความคิดที่ไม่ดีนัก แต่มันช่วยคุณให้ได้ผลลัพท์ที่วิเศษสุดในตอนท้าย