จากนั้นก็เป็นพิธีสงฆ์ ผมก็เดินหาทำเลในการตั้งกล้องเพื่อถ่ายภาพแสงสียามค่ำคืนนี้ เมฆฝนบนหัวครึ้มมาให้หวั่นใจแถมด้วยมีฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ ข่มขวัญ และแล้วในที่สุดฝนก็เปาะแปะลงมาจากเบาๆ พอทนไหวกลายเป็นต้องแผ่นกระเจิง
ในที่สุดก็ได้ทำเลใหม่ใต้ต้นไม้เยื้องหลังอัฒจรรย์นั่งชม ฝนก็โปรยปราย ผู้ชมก็ยังปักหลักรอชมแสงเสียงอลังการ
และแล้วการแสดงชุดแรกก็ออกมาท้าทายสายฝนด้วยการแสดงร้องเพลงของ "รุ่ง สุริยา" พลังเสียงลูกคอ 38 ชั้นท่ามกลางสายฝน กางร่มร้องเพลงกันเลยทีเดียว
ผมเองไม่ได้อยู่หน้าเวทีตรงส่วนการแสดงก็เลยได้แต่ถ่ายภาพมุมนี้ไปพลางๆ