ห้าคำแนะนำสำหรับช่างภาพวิวทิวทัศน์มือใหม่
โพสโดย Barry J Brady แปลโดย Topstep07
เว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/5-tips-newbie-landscape-photographers/ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถ้าคุณเป็นช่างภาพที่นานแล้วหรือเพิ่มเริ่มต้น ช่างภาพส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้ว่าจะถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ให้สวยได้อย่างไร ครั้งหนึ่งคุณมีภาพหลายภาพของดวงอาทิตย์ตกและบางภาพของดวงอาทิตย์ขึ้น คุณอาจจะคิดว่าคุณรู้ว่าต้องทำอย่างไรดังนั้นคุณก็ออกไปยังโลกกว้างในตอนเช้ามืดก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น และลองถ่ายภาพภูเขาหรือภาพวิวทะเล ทันใดนั้นมันไม่ง่าย การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ต้องการมากกว่าการติดตั้งง่ายๆ และการรอคอยที่จะถ่ายภาพ บางครั้งคุณต้องย้อนกลับไปที่นั่นสี่หรือห้าครั้งเพื่อให้ภาพที่คุณต้องการ
ภาพถ่ายวิวทิวทัศน์เป็นสิ่งเย้ายวนใจ เมื่อภาพถ่ายมีความสมบูรณ์การมองไปที่ภาพนั้นจะเป็นเหมือนเราเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้น พวกเขาจะสัมผัสและรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอากาศบนภูเขาหรือความอบอุ่นของทะเลทราย ดังนั้นคุณอาจจะต้องถามตัวเองว่า “ผมจะถ่ายภาพเหมือนกับภาพนั้นได้อย่างไร” หรือ “ฉันคิดว่าภาพถ่ายวิวทิวทัศน์มันยาก สำหรับฉันมันดีพอหรือยัง?” บทความนี้จะตอบคำถามเหล่านี้และหวังว่ามันจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย ความจริงก็คือ การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันต้องการการทุ่มเทและกระตือรือร้น มันจะต้องตื่นแต่เช้ามืดก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น หรือจะต้องอยู่เย็นมากๆ หรือก่อนเวลาเช้าหลายชั่วโมง มันต้องการความรู้ที่ดีเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ ลองมาดูว่าคุณสามารถเริ่มต้นกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร
1. จะค้นหาสถานที่ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ดีๆ ได้อย่างไร?
ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่ คุณอาจจะขับรถไปในที่ที่มีภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามซึ่งมันไม่ไกล หรือคุณอาจจะต้องไปนอกเมืองหรือชานเมือง อะไรที่ผมทำบ่อยๆ ก่อนที่ผมจะไปสถานที่ใหม่ๆแต่ละที่คือ ค้นหาสถานที่สำหรับวิวทิวทัศน์ใน google ผมจะทำการค้นหาด้วยคำว่า landscape scene Canadian rockies และดูว่าผลที่ได้มีอะไรบ้าง บางครั้งคุณจะเห็นสถานที่ที่คุณไม่รู้จักในพื้นที่นั้นและคุณสามารถเริ่มมีความคิดว่าคุณสามารถถ่ายอะไรได้บ้าง คุณสามารถทำสิ่งเดียวกันนี้ในเว็ปพวก 500px หรืออย่างเช่น Flickr ค้นหาอย่างรวดเร็วสำหรับชื่อของสถานที่ที่คุณกำลังจะไปและดูว่าผลที่ได้มีอะไรบ้าง จากที่นั้นคุณสามารถตีกรอบให้แคบลงมาว่า ภาพแบบไหนที่คุณต้องการถ่าย บางครั้งคุณอาจจะต้องถ่ายจากภูเขาสูงที่มองลงมายังเมือง วิวทะเล หรือป่าที่อยู่ด้านล่าง เมื่อคุณเริ่มมีความคิดว่าจะถ่ายอะไรแล้วคุณต้องคำนวณเรื่องแสง เครื่องมือที่ดีของผมคือ ตัว The Photographer’s Ephemeris. อะไรที่ผมลงรักโปรแกรมนี้คือผมสามารถวางหมุดลงบนแผนที่และทันทีคุณจะเห็นที่ที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นและตก พร้อมกับดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน มันบอกถึงทิศทางของดวงอาทิตย์และเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกที่จะเกิดขึ้น คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าเวลาไหนของวันที่จะดีที่สุดในการถ่ายภาพในการวางแผนของคุณ
2. เวลาไหนของวันดีที่สุดในการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์?
Golden hour เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับสีในภาพวิวทิวทัศน์ คุณสามารถถ่ายในช่วงเวลา blue hour เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามได้เช่นกัน ผมชอบมันสำหรับการถ่ายภาพวิวเมือง แสงไฟของเมืองจะตัดกับความงามของท้องฟ้า เวลา Golden hour เป็นตัวแนะนำ คุณต้องถ่ายภาพช่วงดวงอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ให้วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า ไม่มีอะไรน่าผิดหวังไปกว่าการไปถึงที่หมายแล้วพบว่าดวงอาทิตย์กำลังตกและตัวแบบอยู่ในร่มเงา ถ้าเป็นไปได้ควรไปถึงที่หมายก่อนถึงเวลาที่จะถ่ายและเฝ้าดูว่าแสงจะมาจากที่ไหน ซึ่งเป็นหนทางที่คุณรู้แน่นอนว่าคุณจะตั้งกล้องถ่ายมันที่ไหน
3. อุปกรณ์อะไรบ้างที่ผมต้องการสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์?
กล้องถ่ายภาพ
แน่นอน นี้คือส่วนที่สำคัญที่สุดของทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การที่ได้ภาพวิวทิวทัศน์ที่ดีเยี่ยมไม่จำเป็นต้องมีกล้องที่เก็บภาพได้ละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล คุณสามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ด้วยกล้อง DSLR ที่มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซลหรือมากกว่าก็ได้แล้ว เหตุผลก็คือคุณไม่ต้องการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ด้วยกล้องที่มีความละเอียด 4 ล้านพิกเซลซึ่งคุณอาจจะถ่ายภาพได้ดีเยี่ยม ภายหลังคุณอาจจะต้องการไปพิมพ์ภาพถ่ายสวยๆ และใหญ่ๆและแขวนไว้บนผนังแต่ถ้าความละเอียดต่ำ คุณอาจจะพิมพ์ภาพในขนาดที่เล็กลงมาได้
ขาตั้งกล้อง
ใช่...คุณต้องการขาตั้งกล้อง ถ้าคุณกำลังถ่ายภาพดวงอาทิตย์ขึ้น หรือตก ปริมาณของแสงจะมีน้อยมาก คุณต้องการถ่ายภาพที่มีความเร็วชัตเตอร์ที่ลากยาวดังนั้นคุณต้องการให้กล้องตั้งอยู่บนอะไรสักอย่างที่มั่นคง ขาตั้งกล้องที่มั่นคงแข็งแรงจะสร้างความแตกต่าง ความยอดเยี่ยมของขาตั้งกล้องคือ เมื่อคุณได้จัดองค์ประกอบภาพแล้ว คุณสามารถถอนตัวกล้องออกไปได้และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับองค์ประกอบภาพที่คุณจะถ่ายในแต่ละครั้ง ถ้าปราศจากการเคลื่อนย้ายขาตั้งกล้อง
สายลั่นชัตเตอร์
ผมใช้เวลาในการเลือกซื้อสายลั่นชัตเตอร์ (ตัวควบคุมการกดชัตเตอร์) เมื่อผมถ่ายภาพในช่วงเริ่มต้นแต่เมื่อผมมีมันแล้ว ผมก็มานั่งแปลกใจตัวเองว่าทำไมผมคิดนานจังที่จะมีมันตัวสายลั่นชัตเตอร์จะช่วยให้คุณมีอิสระมากกว่า คุณสามารถถือมันไว้ในมือและยืนห่างจากตัวกล้องและกดปุ่มชัตเตอร์เมื่อไรก็ตามที่คุณต้องการ ผมชอบที่จะสังเกตภาพรวมทั้งหมดมากกว่าที่จะมองผ่านช่องมองภาพของตัวกล้อง ผมติดตั้งตัวสายลั่นชัตเตอร์ (ผมชอบแบบเป็นสาย) ยืนห่างออกมา และเริ่มถ่ายภาพ ให้แน่ใจว่าคุณได้ล๊อคการโฟกัสโดยหมุนปุ่มบนกล้องของคุณไปเป็นการโฟกัสแบบ manual แล้ว (หรือใช้ปุ่มด้านลังในการโฟกัส) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณกำลังถ่ายภาพดวงอาทิตย์ตก ถ้าคุณได้ไม่ทำไว้เกิดอะไรขึ้นเมื่อเป็นช่วงกลางคืน กล้องจะพยายามล๊อคโฟกัสและมันจะทำให้เสียเวลา สิ่งที่ดีที่สุดคือตั้งค่าโฟกัสขณะที่วิวนั้นยังมีแสง คลิ๊กลงไปที่โฟกัสแบบ manual และก็ถ่ายภาพ
ตัวฟิลเตอร์
ตัวฟิลเตอร์Graduated Neutral Density ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับช่างภาพวิวทิวทัศน์ มันยังคงเป็นจริงอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมา ช่างภาพหลายคนเริ่มที่จะใช้วิธีการผสมภาพ มันหมายถึงว่าคุณจะถ่ายภาพที่มีแสงสว่างในส่วนของวิวภาพ และคุณจะถ่ายในส่วนที่มืดในวิวภาพ บ่อยครั้งส่วนที่สว่างคือส่วนของท้องฟ้าและส่วนที่มืดคือฉากหน้า หลังจากนั้นก็ใช้โปรแกรม Photoshop คุณสามารถผสมภาพสองภาพที่มีการถ่ายในสภาพแสงที่ดีที่สุดเข้าด้วยกัน นี้คือเทคนิคที่ได้ผลดีในการหลอกสภาพแสงและบางครั้งมันสามารถทำได้ดีกว่าตัวฟิลเตอร์อีก ผมใช้การรวมภาพของทั้งสองเทคนิค ผมจะถ่ายกับตัวฟิลเตอร์ โดยถ่ายภาพที่มีค่ารับแสงที่แตกต่างและดูว่ามันทำงานได้ดีที่สุดในภายหลังเมื่อนำภาพมารวมกันในโปรแกรม
สิ่งสำคัญคือให้แน่ใจว่าคุณได้ภาพที่ดีที่สุดขณะที่คุณอยู่ในพื้นที่ ไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่าการกลับมาในตอนเช้ามากหรือในตอนเย็นที่สายแล้วกับภาพที่คุณเห็นแล้วมันใช่ไม่ได้ เนื่องจากการตั้งค่าไม่ถูกต้อง การตั้งค่ารับแสงที่ถูกต้องในกล้องเป็นกุญแจสำคัญ มันต้องฝึกฝนซึ่งการพยายามในครั้งแรกอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ให้ทำต่อไป คุณจะเรียนรู้วิธีการดูแสงอย่างไร และการตั้งค่าที่ถูกต้องถ้าคุณได้ฝึกฝนอย่างเพียงพอ
เลนส์
สำหรับส่วนที่เหลือคือ เลนส์มุมกว้างจะทำงานได้ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ คุณต้องการเก็บภาพให้ได้กว้างที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อที่จะทำให้ภาพดูยิ่งใหญ่และเก็บกวาดทุกสิ่ง และเลนส์มุมกว้างจะได้ผลดีกับสิ่งนี้ ระมัดระวังอย่าใช้เลนส์ตาปลา ความโค้งอาจจะไม่ได้ผลกับภาพวิวทิวทัศน์ เมื่อคุณใช้เลนส์มุมกว้างมันเป็นความคิดที่ดีที่จะมีฉากหน้าที่น่าสนใจ หมายถึงว่ามีบางสิ่งที่ฉากหน้าที่เหมือนการทอดสมอให้กับภาพ ถ้าคุณไม่มีฉากหน้าที่น่าสนใจไม่เป็นไรคุณยังคงสามารถได้ภาพถ่ายที่ดีได้ คุณจะพบว่าภาพที่มีฉากหน้าที่น่าสนใจจะทำงานได้ดีกว่า คุณอาจจะถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ด้วยเลนส์ซูมมันทำงานได้ดีแต่ก็ไม่ใช่ทุกภาพ ลองใช้ดูแล้วถ้าไม่ได้ผลก็กลับไปใช้เลนส์มุมกว้างเหมือนเดิม
4. ตั้งค่าอะไรบ้างที่ใช้ในการถ่ายภาพ?
การตั้งค่ารับแสง
ไม่มีสูตรตายตัวว่าจะต้องตั้งค่าแบบไหนถึงจะได้ภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุด มีเพียงคำแนะนำไม่กี่อย่าง สิ่งแรก...คุณต้องให้ทุกๆสิ่งอยู่ในโฟกัสซึ่งหมายถึงว่าค่ารูรับแสงของคุณควรจะเป็น f/8, f/11 หรือ f/16 เมื่อตั้งค่าหนึ่งค่าใดแล้ว คุณต้องการตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ต่อมา คุณอาจจะลดความเร็วชัตเตอร์ลงเป็นเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อให้การรับแสงที่พอเหมาะ มันโอเคนะ การรับแสงที่ยาวจะทำงานได้ดีเมื่อมันมีการเคลื่อนไหวของน้ำหรือเมฆในภาพของคุณ น้ำจะดูนุ่มนวลและอ่อนนุ่มเหมือนกันกับเมฆ บางครั้งต้นไม้ในภาพของคุณอาจจะโบกไปมาจากลมพัดเบาๆและการเบลอของภาพทำให้ได้ผลดีเหมือนกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องตั้งค่าคือค่า ISO ของคุณ ผมแนะนำว่าไม่ควรถ่ายด้วย ออโต้ ISO สิ่งนี้จะสร้างปัญหาในหลายรูปแบบโดยเฉพาะตอนดวงอาทิตย์ตก กล้องของคุณจะมองเห็นแสงกำลังหายไปและมันจะพยายามดัน ISO เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยสำหรับแสงที่หายไป นี้คืออาจจะทำให้เกิดดิจิตอลน้อยส์ มันไม่ดีแน่สำหรับภาพวิวทิวทัศน์ของคุณ ตั้งค่า ISO ของคุณเป็น 100 (หรือต่ำสุดเท่าที่กล้องของคุณทำได้) และให้มันคงที่อยู่ตรงนั้น เพียงแต่คุณปรับค่าความเร็วชัตเตอร์เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ภาพนั้น แน่นอนคุณต้องการขาตั้งกล้องที่ไว้ใจได้
ค่า White Balance
นี้คือทางเลือกที่สร้างสรรค์ เริ่มการถ่ายภาพของคุณด้วยค่าไวท์บาลานซ์ที่เป็น daylight หลีกเลี่ยงการใช้ค่าออโต้ไวท์บาลานซ์ เพื่อที่ลองและทำให้สีของภาพเป็นธรรมชาติที่สุด คุณต้องการความลึกองสีในภาพของคุณเท่าที่เป็นไปได้ ดังนั้นลองปรับไปเป็น daylight คุณสามารถใช้ไวท์บาลานซ์ในการสร้างสรรค์ เช่น ใช้ค่า fluorescent เพื่อจะเพิ่มสีแดงคล้ำในภาพ Cloudy และ Shade จะเพิ่มสีส้มหรือแดง และ Tungsten จะเพิ่มสีฟ้า ถ้าคุณต้องการจะเน้นสีใดสีหนึ่งในภาพของคุณก็ให้คุณหมุนไปที่ค่าไวท์บาลานซ์ไปที่นั่น ดังนั้น ถ้าคุณกำลังถ่ายดวงอาทิตย์ตก ให้ใช้ cloudy หรือ shade สำหรับสีแดง และส้ม ถ้ามันไม่ได้ผลดีในภาพ ปรับกลับมาที่ daylight มันจะปรับสีในภาพให้ถูกต้อง
5. ต้องทำอะไรถัดไป?
หลังจากที่คุณกลับมาจากการถ่ายภาพแล้ว ดาวน์โหลดภาพของคุณและมองภาพแบบผ่านๆ โดยปกติคุณจะทำสิ่งนี้ในช่วงกลางคืน ดังนั้นมันดีที่สุดที่จะปล่อยมันไว้จนกระทั่งวันถัดไปก่อนที่คุณจะเริ่มปรับแก้ไขพวกมัน อะไรก็ตามที่คุณใช้ในการปรับแต่งภาพ (Lightroom หรือ Photoshop) คุณสามารถทำงานกับมันได้ ถ้าคุณมีการถ่ายภาพแบบ bracket คุณสามารถรวมภาพได้ใน Photoshop คำแนะนำเพียงสิ่งเดียวในที่นี้คือการใช้เวลาในการปรับแต่งภาพ เลือกภาพที่ดีที่สุดในการนำมาปรับแต่ง คุณอาจจะพบว่าคุณถ่ายภาพมา 100 ภาพแต่มีเพียงสามหรือสีภาพที่น่าเอามาปรับแต่ง มันโอเคนะ การปรับแต่งภาพที่ดีที่สุดและใช้เวลาในการทำภาพเหมือนกับภาพที่คุณเห็นมาแล้ว สำหรับคำแนะนำอย่างรวดเร็วที่จะได้ภาพในบทความนี้ คุณสามารถหาดูในรายการของบทความใน Photoshop ในการใช้เทคนิคขั้นสูง
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...ภาพซ้อนกัน...ฉากหน้าคือภาพที่ถ่ายมาก่อนในช่วงเย็นและภาพดวงดาวเป็นมาต่อมา สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการซ้อนภาพใน Photoshop)
ดังนั้น เพื่อสรุปทั้งหมดนี้ การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์คือการรวมกันของความชำนาญและความอดทน ความชำนาญใช้เวลาในการพัฒนา และความอดทนสามารถทำให้คุณคอยสำหรับภาพที่ใช่ ในการเก้าวเดินอย่างรวดเร็วในโลกของดิจิตอล มันมีบางสิ่งที่ต้องสงบในการถ่ายภาพแนววิวทิวทัศน์ คุณควบคุมสภาพอากาศไม่ได้ คุณควบคุมเรื่องแสงไม่ได้ คุณอยู่ตรงนั้นและกดปุ่มชัตเตอร์ถ้าสภาพแวดล้อมมันใช่ ความสวยงามคือถ้าสภาพแวดล้อมมันถูกต้อง รางวัลคือสิ่งที่แปลกจนไม่น่าเป็นจริงได้ คุณจะได้ภาพที่ดีเยี่ยมและคุณจะใช้เวลาที่เงียบสักพักในธรรมชาติ สนุกกับความสวยงามของดวงอาทิตย์ขึ้นและตก คำแนะนำที่สำคัญคือการใช้เวลาของคุณ อย่าเร่งรีบ อย่ารีบเก็บของจนกระทั่งคุณแน่ใจว่าคุณไม่สามารถได้ภาพที่ดีกว่าสิ่งที่เพิ่งถ่ายไปก่อนหน้านี้ ออกไปและสนุกกับมัน แม้ว่าแสงอาจจะไม่สวยงามหรือสภาพอากาศไม่เหมือนที่หวังไว้ ใช้มันเหมือนเป็นการฝึกฝนและมันจะดีขึ้นในไม่ช้า คุณจะเก็บภาพที่น่าตื่นเต้นเหล่านั้นอย่างง่ายดาย