โพสโดย Valerie Jardin แปลโดย Topstep07
ที่มาของแหล่งข้อมูล (อย่าลืมดูภาพประกอบจากต้นฉบับครับ)
http://digital-photography-school.com/a-quick-and-easy-way-to-make-money-with-your-photographyช่างภาพหลายๆ คนมีความฝันที่จะขายภาพถ่ายของตัวเองและก็เห็นภาพของพวกเขาที่ถูกพิมพ์แขวนอยู่บนผนังในบ้าน ฉันต้องขอแสดงความเสียใจที่ได้ระเบิดความคิดของคุณแต่มันเป็นสิ่งที่ยากในการที่จะหาเงินจากมัน แม้ว่ามีชื่อที่ยิ่งใหญ่ในภาพก็ไม่ทำให้ชีวิตของเราอยู่กับการพิมพ์ภาพขาย มันอาจจะดูเพียงเงินพิเศษเล็กน้อยกับภาพถ่ายและนี้คือเส้นทางที่ง่ายในการหาเงินกับภาพถ่ายของคุณ
นีกถึงสถานที่ใกล้ตัว
แทนที่จะพยายามไปให้ทั่วโลกและแข่งขันกับช่างภาพนับแสนคนที่พยายามขายภาพของพวกเขา ลองนึกสถานที่ใกล้ตัวคุณดูซิ
คุณสามารถใช้เวลาช่วงวันหยุดทุกปี นั่งอยู่ในบูธงานศิลปะเพียงเพื่อขายของให้ได้เท่าทุนและจ่ายค่าเข้างาน งานแสดงศิลปะเป็นสิ่งที่ดีในการแสดงผลงาน แต่ภาพถ่ายไม่ได้เป็นการขายที่ยิ่งใหญ่และในงานหล่านี้ก็จะมีช่างภาพหลายคนพยายามขายภาพในงานเดียวกัน งานแสดงศิลปะเหล่านี้มีค่าสำหรับช่างภาพ
อีกช่องทางหนึ่งคือการแสดงภาพของคุณตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ ถ้าคุณมีโอกาส ให้แน่ใจว่าเป็นงานเปิดที่จะทำให้คุณสามารถได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของคุณและเชิญทุกๆ คนที่คุณนึกถึงมาดูงานของคุณ อย่าให้ภาพของคุณที่โชว์ นานมากกว่าหนึ่งเดือน ไม่มีใครสังเกตหลังจากหลายอาทิตย์ผ่านไป
ฉันกำลังจะบอกเคล็ดลับเล็กๆ ให้คุณ....
หลายปีที่ผ่านมา เมื่อเฉันมีเวลาว่างไม่มากนัก ฉันจะสร้างทีมงานกับช่างศิลป์สองสามคนที่มีรูปแบบที่แตกต่างกัน และก็จัดงานแสดงศิลปะส่วนตัว เราได้รวบรวมรายชื่อและเชิญเพื่อนๆ และครอบครัวเพื่อเข้าร่วมงาน “Art open house” โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เราทำแบบนี้หลายครั้งในหนึ่งปี เราเวียนกันเป็นเจ้าภาพและแบ่งค่าใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม เราได้บอกให้ผู้คนเหล่านั้นนำเพื่อนมาด้วย โดยเมื่อเรารวบรวมรายชื่อเรามีรายชื่อจำนวนมากและเราก็สรุปว่าจะให้มีคนเข้าร่วมงานอย่างน้อย 30 ถึง 50 คน
ทำไมการมีคนมาร่วมงานจำนวน 50 คนดีกว่ามีคนร้อยคนที่เดินผ่านบูธระหว่างงานแสดงศิลปะ? คนที่มางานเปิดบ้านศิลปะของคุณจะมีเป้าหมายเดียวคือดูผลงานของคุณ เพื่อการเข้าสังคมและการใช้จ่ายเงิน ฉันเคยขายได้ถึง 100 เหรียญสำหรับงานภาพพิมพ์เล็กๆและการ์ดอวยพรต่างๆครั้งหนึ่งในช่วงตอนเย็น และคุณยังคงมีเวลาที่ดีที่จะได้พูดคุยกับเพื่อนๆ หรือนักศิลปะท่านอื่นๆ อีกด้วย
ขายอะไรดี?
สิ่งเล็กๆ... คุณสามารถที่จะมีสินค้าชิ้นใหญ่ ภาพพิมพ์ในกรอบ หรือบนจอแสดงภาพ หรือเป็นไปได้ทั้งสองแบบ แต่สินค้าชิ้นเล็ก เช่น การ์ดอวยพร จะขายได้ คนส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบการ์ดอวยพร โดยเฉพาะในแทบตอนเหนือของอเมริกา ฉันรู้ว่าความแตกต่างของแต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน คุณอาจจะคิดว่าในโลกของจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ การ์ดกระดาษวันหนึ่งจะหายไปในที่สุด ในอีกแง่หนึ่ง อิเล็คทรอนิกส์การ์ด และการอวยพรผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งธรรมดาและไม่มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งการได้รับการ์ดจริงๆที่เป็นจดหมายจะกลายเป็นเรื่องแปลกในที่สุด
ข้อดีของการขายการ์ด คือ ทุกๆ คนสามารถที่จะหาและใช้มันได้ ให้แน่ใจว่าคุณมีการ์ดหลากหลายชนิดจำนวนมากกับรูปภาพที่ดีที่สุด ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่สามารถตัดสินใจเลือกอันใดอันหนึ่ง พวกเขาก็จะซื้อมันทั้งหมด อีกข้อแนะนำคือให้แสดงสินค้าที่มีการห่อไว้กับโบว์ พวกเขาจะมีความคิดในการให้ของขวัญที่สนุกๆ กับเพื่อน เพื่อนร่วมงาน คุณครู หรือคนอื่นๆ อีกสักข้อแนะนำ นำเสนอสิทธิพิเศษ ส่วนลดของการเลือกสินค้าที่มีข้อจำกัด คนส่วนใหญ่จะซื้อเพียงสิ่งที่เขารู้สึกว่าได้รับข้อเสนอที่ดี หรือจะใช้สำนวนนี้ ซื้อการ์ด 10ใบรับหนึ่งใบ ฟรี... มันใช้ได้เลยแหละ....
คุณจะทำการ์ดอวยพรอย่างไร
มันอาจจะใช้เวลาและแรงงานไม่มากในการทำการ์ดและมีหลายวิธีในการทำพวกมัน คุณสามารถสั่งการ์ดของคุณซึ่งถูกทำจากคนขายส่ง มันเป็นทางที่ง่ายที่สุดในการดำเนินการแต่มันมีค่าใช้จ่ายและอาจจะไม่คุ้มกับกำไรที่ได้มา
คุณสามารถทำเองได้ ถ้าคุณมีเครื่องprinter ที่พิมพ์รูปภาพแบบคุณภาพดีหน่อย คุณสามารถดาวน์โหลดแม่แบบการ์ดอวยพรและพิพม์มันที่บ้านด้วยกระดาษสวยๆ ตรวจสอบดูว่าค่าใช้จ่ายที่สูงของค่าหมึกพิมพ์ การปรับแต่งในการ์ดแต่ละใบว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไรสำหรับค่าหมึก กระดาษและซอง เป้าหมายคือ ทำการ์ดที่สวยงามกับต้นทุนที่น้อยที่สุดที่เป็นไปได้
หนทางการทำการ์ดที่ไม่แพงแต่ต้องแลกกับเวลาที่เสียไป คือติดรูปบนกระดาษ เลือกกระดาษการ์ดที่เข้ากันกับซองซึ่งสามารถหาซื้อได้ในร้านงานฝีมือทั่วไปในราคาที่สมเหตุสมผล ขั้นต่อไปคือการพิมพ์โลโก้ของคุณ ข้อมูลการติดต่อด้านหลังการ์ด ส่วนที่น่าเบื่อที่สุดคือการติดภาพบนด้านหน้าของการ์ดด้วยเทปสองหน้า
คุณสามารถหุ้มการ์ดด้วยซองกระจกเพื่อให้มันดูแบบมืออาชีพหน่อย หรือ “แบบรักษ์โลก” และไม่ห่ออะไรเลย การสั่งพิมพ์ทางออนไลน์ในขนาด 4x6 จะถูกกว่าในราคาต่อแผ่นไม่กี่สตางค์ (ถูกกว่าพิมพ์เอง)
จำไว้ว่า การ์ดอวยพรที่เราซื้อจากร้านจะมีราคาแพง ความเป็นเอกลักษณ์ของคุณและคุณสามารถที่จะขายมันได้ง่ายๆในราคา 5 เหรียญสหรัฐ ต่อการ์ดหนึ่งใบ ซึ่งสามารถที่เพิ่มมูลค่าได้เมื่อผู้ซื้อต้องการซื้อจำนวนหนึ่งโหล หรือเป็นแพ็คที่จะให้เป็นของขวัญ ถ้าคุณทำมันได้ คุณสามารถที่จะได้กำไรจากมัน 300 ถึง 400 เปอร์เซนต์ในการ์ดแต่ละใบเลยทีเดียว อีกเรื่องที่ต้องจำไว้คือ เป้าหมายการทำสิ่งนี้ไม่ได้เพื่อการเลี้ยงชีพ แต่คุณสามารถที่จะได้เงินหลักร้อยเหรียญในช่วงงานสังสรรค์ และมันทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวคุณเอง
สิ่งที่สนุกและเป็นโบนัสสำหรับคุณ นั่นคือ การเป็นช่างภาพ
การถ่ายภาพเพื่อทำการ์ดอวยพรกลายเป็นโครงการการถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่ ลองคิดถึงความแตกต่างของหัวข้อที่คุณจะถ่ายซิ คริสมาส ฮานุกกา วันพ่อ วันแม่ วันเกิด วันวาเลนไทม์ และอีกมากมาย ในที่สุดคุณก็กลายเป็นช่างภาพสต๊อกที่เป็นธุรกิจเล็กๆ ฉันเคยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในแต่ละสัปดาห์เพื่อถ่ายการ์ดอวยพรเป็นของสะสม ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันต้องออกไปถ่ายภาพในหัวข้อ วันพ่อ ฉันจะคิดถึงเรื่อง กอล์ฟ การตกปลา รถยนต์โบราณ และอีกมากมาย ทุกๆ การกำหนดหัวข้อด้วยตัวคุณเอง กลายเป็นเหมือนการล่าสมบัติ มันเหมือนกับการที่คุณถ่ายภาพสำหรับตัวแทนขายสต๊อก ความแตกต่างคือ ฉันทำเงินได้มากและฉันก็รู้สึกสนุกในการขายพวกมันมากว่าฉันขายใน iStock
การทดลองเล็กๆ นี้จะตอบสนองได้ถึงสองจุดประสงค์ ฉันสนุกและเรียนรู้มากมายกับการทำงานการถ่ายภาพซึ่งนำมาถึงเงินพิเศษสำหรับค่าทิปหรืออุปกรณ์กล้อง
ข้อดีอีกอย่างคือ ชื่อของคุณจะแพร่กระจายออกไป หลายครั้งที่ลูกค้าส่งเมล์ หรือโทรหาฉันเพื่อที่จะสั่งการ์ดหลังจากที่เขาได้รับไปแล้วหนึ่งใบเพื่อใช้ในโอกาสพิเศษ สิ่งสำคัญคือข้อมูลการติดต่อที่อยู่ด้านหลังการ์ดนั่นแหละ ทุกวันนี้ฉันไม่ได้ทำการ์ดอีกต่อไปแล้ว แต่ฉันก็ได้รับการร้องขอจากบริษัทผลิตการ์ดเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ภาพของฉัน
ถ้าคุณรักการถ่ายภาพและถ้าคุณมีเวลาบ้าง ทำไมคุณไม่ลองหาเงินพิเศษจากการขายภาพของคุณละ โชคดีนะค่ะ