Author Topic: เทคนิคและคำแนะนำในการถ่ายภาพน้ำตก  (Read 6701 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
 เทคนิคและคำแนะนำในการถ่ายภาพน้ำตก

โพสโดย Ron Bigelow แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย

http://www.picturecorrect.com/…/waterfall-photography-tips…/

น้ำตกดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่จับอยู่ในจิตใจของผู้คน ลองไปในสถานที่สักหนึ่งที่ที่มีน้ำตกมากกว่าหนึ่งแห่งและรับรองได้เลยว่ามันจะดึงดูดคุณ ถ้ามันไม่ใช่การดึงดูดหลักของพื้นที่นั้น อย่างไรก็ตามความสวยของน้ำตกมันไม่ง่ายที่จะเก็บภาพสวยๆด้วยกล้อง มันง่ายในการถ่ายภาพน้ำตก มันไม่ง่ายในการถ่ายภาพให้มีพลัง
(ดูภาพในเว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อประกอบคำบรรยาย “Dead Leaves And The Dirty Ground” captured by Mark Broughton (Click Image to See More From Mark Broughton)
การถ่ายภาพน้ำตกจะมีปัญหาที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งต้องใช้การแก้ไขที่มีเอกลักษณ์เช่นกัน ในบทความนี้พูดถึงปัญหาที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะและแนวทางแก้ไขซึ่งยอมให้ช่างภาพผลิตภาพที่สื่อถึงความมีพลังและความสวยงามของน้ำตกที่มีอยู่นานแล้ว

สภาพอากาศ

สภาพอากาศจะเล่นเป็นบทหลักใหญ่ๆในการผลิตภาพน้ำตกที่ยอดเยี่ยม ดูเหมือนง่าย การถ่ายภาพน้ำตกจะไม่สวยตอนสภาพอากาศที่แดงเปรี้ยง เวลาที่ดีที่สุดของการถ่ายภาพน้ำตกคือช่วงที่สภาพอากาศมีเมฆมาก..
น้ำตกบางที่จะถ่ายภาพดีที่สุดในช่วงแสงที่มีเมฆมาก แสงแบบนี้จะผลิตแสงที่นุ่มนวลแต่ยังคงมีพลังที่เพียงพอที่จะดึงเอาสีเข้ามาในภาพด้วย น้ำตกบางแห่งก็ถ่ายภาพสวยในช่วงมืดครึ้มมาก สภาพแบบนี้สามารถสร้างอารมณ์ของภาพกับพลังที่ถ่ายทอดไปสู่ความรู้สึกของอารมณ์ในภาพ แท้จริงแล้วภาพน้ำตกที่มีพลังสามารถถูกสร้างในช่วงหน้าฝน (ระหว่างที่ฝนหยุดตก)
(ดูภาพในเว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อประกอบคำบรรยาย “Skogafoss” captured by AEvar Guomundsson (Click Image to See More From AEvar Guomundsson)

ตัวฟิลเตอร์เก่า

สิ่งสำคัญที่ท้าทายของการถ่ายภาพน้ำตกคือน้ำที่กระเซ็นเข้ามาที่เลนส์ ( หรือฟิลเตอร์ที่อยู่ด้านหน้าเลนส์) น้ำตกที่มีพลังจะมีปริมาณน้ำที่มากที่จะสร้างละอองน้ำ อีกทางหนึ่ง สภาพอากาศอาจจะสร้างหมอก ฝนตกปรอยๆ หรือฝนที่เข้ามาในเลนส์ ทั้งหมดนี้สามารถทำให้แย่ลงไปอีกโดยลม (ซึ่งมันจะพัดตรงไปที่เลนส์ของผม) ทางแก้ไขอีกทางหนึ่งคือใช้ฟิลเตอร์เก่าใสไว้ด้านหน้าเลนส์ขณะที่อุปกรณ์กำลังติดตั้ง ขณะที่ช่างภาพพร้อมที่จะออกไป ช่างภาพจะเอาตัวฟิลเตอร์ออกจากเลนส์เพื่อทำการถ่ายภาพ

ขาตั้งกล้อง

อย่าคิดว่าการถ่ายภาพน้ำตกนั้นไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ส่วนที่ใหญ่สุดของน้ำตกธรรมชาติคือการเคลื่อนไหวของน้ำ การเคลื่อนไหวแบบนี้การเก็บภาพจะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าเพียงพอที่จะให้ภาพชัดซึ่งไม่สามารถถ่ายภาพด้วยการถือกล้องมือเปล่าได้
(ดูภาพในเว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อประกอบคำบรรยาย “Fiery Autumn Waterfall” captured by Forest Wander (Click Image to See More From Forest Wander)

ไวท์บาลานซ์

แสงที่มีผลกับการถ่ายภาพน้ำตกสามารถหลอกได้ ในช่วงฟ้าครึ้มหรือฝนตก แสงจะให้โทนไปทางสีฟ้าจางๆ ถ้าน้ำตกที่อยู่ในป่า แสงจะสะท้อนจากต้นไม้และให้แสงสีเขียวจางๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง ออโต้ไวท์บาลานซ์หรือตัว พรีเซ็ทไวท์บาลานซ์ในตัวกล้องจะไม่ยืนยันว่าไวท์บาลานซ์นั้นแน่นอน ทางแก้ไขที่ดีที่สุดคือใช้การตั้งไวท์บาลานซ์แบบ manual (คู่มือกล้องของคุณจะอธิบายว่าการตั้งค่านั้นทำอย่างไร)

โพลาไรซ์เซอร์

ตัวแบบที่เปียกน้ำจะสร้างแสงสะท้อน แสงนี้ถูกแบ่งเป็นส่วนๆ นี้คือปัญหาทั่วไปกับการถ่ายภาพน้ำตกเพราะว่าหินและพืชพรรณต่างๆ ที่อยู่ใกล้น้ำตกจะเปียกและจะปริมาณของการสะท้อนแสง ตัวโพลาไรซ์เซอร์จะเอาแสงสะท้อนนี้ออกได้ สิ่งเพิ่มเติม โพลาไรซ์เซอร์เป็นผลลำดับรองโดยการเอาแสงสะท้อนออก ความอิ่มตัวของสีจะถูกเพิ่มขึ้นด้วย

ตัววัดระดับ

เป็นที่น่าเศร้าใจว่าสายตาของมนุษย์ไม่ดีพอที่ตัดสินว่ากล้องอยู่ในระนาบที่ตั้งตรง โชคดี ตัววัดระดับถูกออกแบบอย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับการวัดระดับของตัวกล้องถ่ายภาพ ตัววัดระดับมีราคาไม่แพง เล็ก ง่ายในการใช้งานที่เสียบอยู่บนช่องใส่แฟลชที่อยู่บนหัวกล้องและช่างภาพสามารถปรับตัวกล้องให้ตรงกับตัววัดระดับ มันทำงานเหมือนกับตัววัดระดับน้ำของช่างไม้ ง่ายๆ เพียงให้ตัวฟองอากาศข้างในอยู่ระหว่างเส้นตรงกลางและกล้องก็จะถูกปรับระดับให้ตรงตามนั้น
(ดูภาพในเว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อประกอบคำบรรยาย “Waterfall” captured by Derrick Smith (Click Image to See More From Derrick Smith)

องค์ประกอบภาพ

การระบุและการเก็บภาพที่มีองค์ประกอบภาพที่ทรงพลังคือสิ่งที่สำคัญส่วนของการสร้างภาพน้ำตกที่มีพลัง ขณะที่วัตถุประสงค์ของบทความนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องขององค์ประกอบภาพ มุมมองขององค์ประกอบภาพ เส้นโค้งและสภาพแวดล้อมก็ยังคงรวมอยู่ด้วย
เส้นโค้งสามารถสร้างหรือหยุดภาพน้ำตกได้ มีเส้นโค้งสองแบบที่สำคัญ แบบแรกของเส้นโค้งคือรูปทรงของน้ำ น้ำตกส่วนใหญ่จะมีการไหลของน้ำหรือตกลงมาในทิศทางรูปแบบเส้นโค้งซึ่งสร้างความน่าสนใจมากกว่าน้ำตกที่มีน้ำตกลงมาแบบตรงๆ สาระสำคัญคือ เส้นโค้งที่อ่อนช้อยจะเพิ่มความงดงามให้น้ำตกได้มากที่เดียว รูปแบบที่สองของเส้นโค้งคือ ความโค้งของตัวแบบที่ชี้ไปยังน้ำตก ความโค้งแบบนี้จะชี้ตรงไปที่น้ำตกและทำให้เป็นจุดกึงกลางของความน่าสนใจ
ส่วนประกอบที่สองของการวางองค์ประกอบภาพน้ำตกที่ครอบคลุมในบทความนี้คือ สภาพแวดล้อมที่อยู่ล้อมรอบน้ำตก นี้คือสิ่งที่สำคัญสำหรับการถ่ายภาพน้ำตก โดยตัวของมันเองการตกของน้ำดูไม่น่าสนใจ ยิ่งกว่านั้นมันยังแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ทำให้น้ำตกมีลักษณะเฉพาะตัว ดังนั้นทำไมไม่รวมเอาสภาพแวดล้อมธรรมชาติเข้าไปอยู่ในภาพของคุณด้วย การล้อมรอบของก้อนหิน ต้นไม้ และพืชสามารถทำให้ภาพน้ำตกที่มีชีวิตได้

ความเร็วชัตเตอร์

ค่าความเร็วชัตเตอร์อะไรที่ควรใช้ในการเบลอน้ำตก? ดูเหมือนว่าคือคำถามแรกของคนที่ต้องการถ่ายภาพน้ำตก อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดเป็นค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ถูกต้องสำหรับการถ่ายน้ำตก ค่าความเร็วชัตเตอร์ที่เหมาะสมคือห้าปัจจัยดังนี้
(ดูภาพตัวอย่างประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...“Play Misty for Me” captured by Debra Vanderlaan (Click Image to See More From Debra Vanderlaan)
• The amount of blur desired
• ปริมาณของน้ำ
• ความเร็วของน้ำ
• ระยะห่างระหว่างกล้องและน้ำ
• ทิศทางการไหลของน้ำกับเลนส์ที่ใช้
ค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ดีที่สุดจะผันแปรจากน้ำตกแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง ในตอนแรก ฟังดูแล้วน่ากังวลใจเล็กน้อย “ผมจะปรับค่าความเร็วชัตเตอร์อย่างไรให้ดีที่สุด มันเปลี่ยนจากน้ำตกที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง” แท้จริงแล้วกับกล้องดิจิตอลมันง่ายมากที่จะหาค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ดีที่สุด คุณสามารถทดสอบถ่ายภาพในค่าความเร็วชัตเตอร์ที่แตกต่างกันและทดสอบดูผลที่ได้ผ่านจอแสดงภาพ ซูมภาพเข้าไปดูในจอจะช่วยให้คุณเห็นรายละเอียดของน้ำว่าฟุ้งแค่ไหน
สำหรับน้ำตกขนาดใหญ่กับปริมาณน้ำที่มากมายที่ซึ่งมันเป็นที่ชื่นชอบของการเก็บภาพความรุ่นแรงของธรรมชาติของน้ำตก ค่า 1/100 วินาทีคือค่าความเร็วชัตเตอร์ที่เริ่มต้น สำหรับน้ำตกขนาดเล็กกว่า น้ำตกที่มีน้ำน้อย หรือน้ำตกที่ซึ่งเราชอบถ่ายให้เหมือนภาพความฝัน ความเร็วชัตเตอร์จะอยู่ที่ 1/2 วินาที ถึง 2 วินาที

ค่าการรับแสง

การได้ค่ารับแสงที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ท้าทายเมื่อทำการถ่ายภาพน้ำตก แน่นอน...ปัญหาใหญ่ที่สุดสิ่งหนึ่งคือมันง่ายที่จะเกิดไฮทไลท์ที่น้ำ มันหมายถึงว่า รายละเอียดในน้ำจะหายไป และน้ำจะกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีแต่แสงสีขาวล้วนๆ เมื่อมันเกิดขึ้น น้ำจะดูไม่สมจริง แนวทางแก้ไขของปัญหาคือ ลองถ่ายภาพน้ำตกและตรวจสอบค่าฮิสโตแกรมในจอแสดงภาพในกล้องของคุณ ถ้าค่าฮิสโตแกรมมันตัดส่วนด้านขวาออกไป ค่าไฮทไลท์ก็จะหายไปด้วย ถ้ามันเป็นแบบนี้ ค่ารับแสงต้องการค่าที่ลดลง
(ดูภาพตัวอย่างประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ..“Guadalupe River on Roar” captured by Rob Zabroky (Click Image to See More From Rob Zabroky)

บทสรุป
คำแนะนำเหล่านี้ คุณควรจะได้วิธีของคุณเองในการเก็บภาพน้ำตกที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

Offline Donaldhall

  • Newbie
  • *
  • Posts: 2
    • View Profile
กับมือถือผมยังทำไม่เป็นเลย กำลังหัดอยู่