Author Topic: ใช้ LAB Color ใน Photoshop อย่างไรเพื่อดึงเอาสีที่ไม่ต้องการในภาพออกไป  (Read 7073 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
 ใช้ LAB Color ใน Photoshop อย่างไรเพื่อดึงเอาสีที่ไม่ต้องการในภาพออกไป

โพสโดย Jim Hamel แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/use-lab-color-photos…/

ในบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ LAB Colorspace ผมได้ครอบคลุมถึง LAB ขั้นพื้นฐานเพื่อเพิ่มสีสรรของภาพ หวังว่าคุณคงได้ไอเดียของพลัง LAB Colorspace ในการปรับสีที่เหมาะสมใน Photoshop ในบทความนี้เรากำลังทำบ้างอย่างเพียงเล็กน้อย ขณะที่บทความที่แล้วเราใช้ LAB ขั้นพื้นฐานในการปรับสีเพิ่มขึ้น เวลานี้เราจะได้สีที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าการเอาสีที่ไม่ต้องการออกจากภาพโดยใช้ LAB ในหลายๆทางการทำแบบนี้ใน LAB จะง่ายมากกว่า และมีพลังมากกว่าในการทำแบบปกติใน RGB colorspace

การตั้งค่า

การเอาสีที่ไม่ต้องการออกและการปรับสีให้เหมาะสมจะเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับคุณเมื่อคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำงานของ LAB colorspace มาบ้างแล้ว เริ่มต้นให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจว่าอะไรคือ LAB colorspace เมื่อคุณเข้าใจว่า LAB colorspace ทำงานอย่างไร ทุกๆ สิ่งมันจะง่ายมาก
LAB ย่อมาจากคำว่า Lightness, A channel และ B channel ตัว L channel จะควบคุมเรื่องความสว่าง และเราจะไม่ได้ทำงานกับมันสำหรับวัตถุประสงค์ในบทความนี้ สีทั้งหมดที่อยู่ใน LAB colorspace คืออยู่ใน A และ B channel ตัว A channel จะประกอบไปด้วยสีเขียวและสีแดงม่วง ส่วน B channel จะประกอบไปด้วยสีฟ้า และสีเหลือง ฮิสโตแกรมของทั้งสอง channel มีความเหมือนกันคือมียอดแหลมอยู่ตรงกลางของฮิสโตแกรม เพราะ LAB คือพื้นที่สีที่กว้าง มันจะมีพื้นที่ว่างๆในแต่ละข้างของฮิสโตแกรม ขณะที่คุณเห็นในบทความที่แล้ว ค่าพื้นที่ว่างเปล่าคือสิ่งที่เป็นโอกาสในการเพิ่มค่าสีที่มีผลใน LAB colorspace
ตอนนี้เรามาดูที่ฮิสโตแกรมของ A channel กันก่อนซึ่งคุณสามารถเห็นว่ามันทำงานอย่างไร A channel จะรวมเอาสีเขียวและสีแดงม่วง ทางด้านซ้ายของฮิสโตแกรมจะเป็นส่วนของสีเขียว ในทางตรงกันข้ามทางด้านขวาของฮิสโตแกรม จะแสดงถึงสีม่วงแดง (ดูในภาพตัวอย่างประกอบ ในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)

ส่วนที่อยู่ตรงกลางของฮิสโตรแกรมคือค่าโทนสีเทาโดยปราศจากค่าสีใดๆ มันจะแสดงค่าเป็นศูนย์ เมื่อคุณเลื่อนออกห่างจากค่าศูนย์ (จุดเทา)ของตรงกลาง สีจะถูกเพิ่มเข้าไป ถ้าไปทางซ้ายค่าจะเป็นตัวเลขติดลบ (ลงไปจนถึงค่า -128) และทำให้เราได้สีเขียวที่มากขึ้น ถ้าเราเลื่อนไปทางด้านขวาจะมีค่าเป็นเลขบวก (ไปถึงที่มากสุดคือ +127) และทำให้เราได้สีแดงม่วงมากขึ้น (ค่อนข้างไปทางสีชมพู)
มันทำงานเหมือนกันใน B channel เพียงแต่มีสีที่แตกต่างกันเท่านั้น ใน B channel เรายังคงเริ่มจากจุดกึ่งกลางที่มีค่าเป็นศูนย์ซึ่งหมายถึงว่ามันคือสีเทา ถ้าคุณเลื่อนไปทางซ้ายของฮิสโตแรกมจนถึง -128 สีจะเป็นสีฟ้า ขณะที่คุณเลื่อนไปทางขวาจนถึง +127 สีจะเป็นสีเหลือง
เส้นที่อยู่ตรงกลางของฮิศโตแรกมจะวิ่งตรงไปยังจุดศูนย์ในกึ่งกลางของทั้ง A และ B channel นี้คือสิ่งสำคัญสำหรับการวิเคราะห์และการปรับค่าสีให้ถูกต้อง ถ้าคุณยังอยู่กับผมมาแล้วทุกๆสิ่งจะง่ายจากตรงนี้ เวลานี้คุณสามารถเอาสิ่งที่เรียนรู้และเห็นว่าการวิเคราะห์และแก้ไขสีง่ายๆใน LAB

การพิสูจน์ค่าสีอย่างง่ายๆ

มันง่ายในการพิสูจน์ค่าสีในโหมด LAB เพียงแต่ดูใน A หรือ B channel ถ้าสีที่มากหรือน้อยจะกระจายไปทั้งสองข้างจากจุดกลางของฮิสโตแกรม ภาพของคุณจะไม่มีสีที่ไม่ต้องการ แต่ถ้าฮิสโตแกรมมีค่ากราฟไปทางซ้ายหรือขวาของฮิสโตแกรม คุณจะมีสีที่ไม่ต้องการเกิดขึ้น แหละนี้คือการทำงานของ A และ B channel
• ใน A Channel ถ้าสีออกไปทางด้านซ้ายมาก คุณจะได้สีเขียวเกิดขึ้นในภาพของคุณ ถ้ามันไปทางด้านขวา คุณจะมีสีม่วงแดงเกิดขึ้น
• คล้ายกัน ใน B channel คุณรู้ว่าถ้าฮิสโตแกรมแสดงกราฟไปทางซ้าย คุณจะมีสีฟ้าเกิดขึ้นในภาพของคุณ ถ้าค่าของกราฟไปทางด้านขวาของฮิสโตแกรม ภาพของคุณจะปรากฎมีสีเหลืองมาก
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ในลักษณะนี้ LAB colorspace จะทำให้ดูง่ายมากขึ้นถ้าคุณมีสีที่ไม่ต้องการ เพียงแต่ดูค่ากึ่งกลางของฮิสโตแกรมและถ้าสีอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง คุณก็รู้ว่าคุณมีสีอะไรที่เพิ่มเข้ามา สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะว่าสีที่ไม่ต้องการจะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยากมาก ดวงตาของคุณจะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เห็นในภาพในทางที่ควรจะเป็นและยอมรับว่ามันเป็นสิ่งปกติไม่ผิดสังเกตอะไร เวลานี้เรารู้วิธีการพิสูจน์สีที่ไม่ต้องการ ลองมาดูวิธีการแก้ไขกันบ้าง

การแก้ไขสีที่ไม่ต้องการใน LAB

พลังของ LAB colorspace มาจากการเลื่อนเข้าไปหาจุดปลายของแต่ละข้างของฮิสโตแกรม ในบทความที่แล้ว เราได้แยกสีซึ่งทำให้เกิดการเพิ่มสี เราเคลื่อนย้ายจุดปลายเข้าหาจุดกลางซึ่งมีค่าเหมือนกันในแต่ละข้างของฮิสโตแกรม การเพิ่มสีโดยปราศจากผลกระทบกับสีโดยรวมของภาพ เวลานี้เราจะเคลื่อนจุดปลายในค่าที่แตกต่างเพื่อแก้ไขสีที่ไม่ต้องการ
ตัวอย่างเช่น ภาพของคุณมีสีฟ้าที่ไม่ต้องการเกิดขึ้น เมื่อคุณเปิดด้วย B channel ยอดแหลมของกราฟสีจะไปทางซ้ายของจุดกลางในฮิสโตแรกม การแก้ไขมันคือเพียงแต่คุณเลื่อนจุดปลายทางขวาของฮิสโตแกรมมากกว่าทางด้านจุดปลายด้านซ้าย มันง่ายจริงๆ
ลองดูอีกหนึ่งตัวอย่าง คุณเปิด A channel ของภาพของคุณ และสังเกตว่าค่ากราฟเอียงไปทางซ้ายของจุดกลางบนฮิสโตแกรมนั้นหมายความว่าคุณมีสีเขียวที่ไม่ต้องการเกิดขึ้น การแก้ไขมันเพียงเลื่อนจุดปลายด้านขวาเพียงเล็กน้อย อย่าเลื่อนมากเพียงแค่ 3 ถึง 5 จุดก็จะมีผลกับสีที่ขยับออกไป

การพิสูจน์และการแก้ไขสีที่ไม่ต้องการ

สิ่งนี้จะทำให้ดูน่าเชื่อถือกว่าถ้าเราใช้ตัวอย่างจากภาพจริงๆ นี้คือตัวอย่างที่ดีของทุกสิ่งที่เรากำลังพูดถึงในบทความนี้ เราจะเริ่มกับภาพที่ผมได้ทำการปรับแต่ง
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
พูดตามตรงผมไม่เห็นสีที่ไม่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ผมตัดสินใจตรวจสอบมัน ผมเปลี่ยนภาพ profile เป็น LAB เปิดดู Curves Adjustment Layer และมองดุที่ฮิสโตแกรมของ A และ B channel และนี้คือสิ่งที่ผมได้เห็น
(ดูภาพฮิสโตแกรมในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ทั้งสองฮิสโตแกรมใน LAB ฮิสโตแกรมทางด้านซ้ายคือ A channel และทางด้านขวาคือ B channel สังเกตทั้งสองฮิสโตแกรมว่ามันเอียงไปทางด้านขวาจะเส้นกึ่งกลาง มีคือสิ่งที่บอกว่ามีสีที่ไม่ต้องการในภาพ
สังเกตว่าใน A channel ค่าพิกเซลส่วนใหญ่จะซ้อนกันไปทางขวาจากเส้นกึ่งกลางบนฮิสโตแกรม นี้คือสิ่งบ่งชี้ว่ามีพิกเซลม่วงแดงมากกว่าสีเขียวในภาพ และสังเกตใน B channel ค่าพิกเซลก็จะซ้อนกันไปทางขวาของเส้นกึ่งกลางซึ่งหมายความว่ามีสีเหลืองอยู่มากกว่าสีฟ้าในภาพ ไม่ว่าทั้งสองจะมีมีค่าอย่างไรมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติในภาพ แต่มันอาจจะหมายถึงสีที่ไม่ต้องการ ดังนั้นลองมาปรับแก้ตามที่ได้บรรยายไว้ด้านบนและเลื่อนจุดปลายด้านซ้ายเพียงเล็กน้อยในแต่ละ channel นี้คือสิ่งที่ผมได้ปรับไปทั้งสอง channel
(ดูภาพประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...นี้คือฮิสโตแกรมหลังการปรับแล้ว สังเกตว่าผมได้ดึงจุดปลายด้านซ้ายแต่ละครั้งไปหาจุดกลาง)
ทั้งหมดที่ผมทำคือการดึงจุดปลายด้านซ้ายของแต่ละฮิสโตแกรมไปยังจุดกึ่งกลางเพียงเล็กน้อยแค่เปลี่ยนไป สามถืงห้าจุดจะมีผลกับการปรับเปลี่ยนมากมาย นั้นคือสิ่งที่ผมได้ทำไป ในตัวเลขด้านล่างของฮิสโตแกรมที่เป็นผลจากการปรับเปลี่ยน ผมได้ทำการปรับเปลี่ยนตามนี้
• A Channel ผมได้ดึงจุดปลายด้านซ้ายไปยังจุดกลางแค่สี่จุด จาก -128 ไป ยัง -124
• B Channel ผมได้ดึงจุดปลายด้านซ้ายไปยังจุดกลางแค่ห้าจุด จาก -128 ไปยัง -123
หลังจากที่ผมปรับไปแล้ว นี้คือผลลัพท์ที่ได้ในภาพนี้ (ดูภาพตัวอย่างประกอบคำบรรยาย ในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ผมคิดว่ามันดูดีกว่าเดิมแล้วตอนนี้ สำหรับผมมันมีสีที่ไม่ต้องการที่ผมมองไม่เห็น การเปลี่ยนแปลงซึ่งเบาลาง แต่มีความสำคัญ โดยเฉพาะลองดูที่ก้อนเมฆ นี้คือภาพก่อนและหลังเทียบข้างกัน (ดูภาพตัวอย่างประกอบคำบรรยาย ในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)
ภาพต้นฉบับอยู่ทางด้านซ้าย ภาพด้านขวาคือการปรับแก้ใน LAB ผมไม่เห็นสีที่ไม่ต้องการในภาพต้นฉบับ แต่ผมคิดว่ามันดูดีกว่าหลังจากการปรับ
การรวมกันเข้าเป็น LAB ในการเคลื่อนย้ายสี
บางครั้งคุณจะสังเกตุว่า ยอดแหลมใน A หรือ B channel คือด้านหนึ่งของจุดหนึ่งของฮิสโตแกรม แต่คุณไม่ต้องการเปลี่ยนสีทั้งหมดของภาพ มันยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณกำลังปรับสีใน LAB ถ้าคุณละเลยไม่เปลี่ยนข้างหนึ่งหรืออีกข้างหนึ่งเมื่อคุณเลื่อนจุดปลายโดยมีค่าเท่ากัน คุณอาจจะสีดูแย่ลง อย่างไรก็ดีให้คุณดูที่ฮิสโตแกรมของคุณและพยายามทำการปรับค่ารอบๆจุดแหลมมากกว่าบนจุดกึ่งกลางของฮิสโตแกรม ในอีกทางหนึ่ง ถ้าพิกเซลอยู่ด้านขวาของฮิสโตแกรม เลื่อนจุดปลายด้านซ้ายเพียงเล็กน้อย (หรือในทางกลับกัน) ในลักษณะนี้คุณสามารถทำการปรับสีใน LAB แบบปกติ แต่อย่างน้อยไม่เพิ่มสีที่ไม่ต้องการในภาพของคุณ

ทำไมเราไม่ปรับทำใน RGB?

คุณอาจจะกำลังถาม ผมไม่สามารถปรับสีที่ไม่ต้องการใน RGB ไม่ได้หรือ? คำตอบ แน่นอนทำได้ครับ แต่ LAB colorspace มีข้อดีซึ่งผมต้องการให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจกระจ่าง
สิ่งแรกเพราะว่า LAV ได้แยกเรื่องแสงออกจากการปรับเรื่องสีทั้งหมด LAB ยอมให้คุณแก้ไขสีโดยปราศจากผลกระทบกับความสว่างหรือความเปรียบต่าง สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ใน RGB เมื่อคุณปรับที่สีแดง สีเขียว หรือ ฟ้าใน RGB คุณจะได้รับผลกระทบกับความสว่างไปด้วย มันผูกกันแน่นใน RGB
สอง LAB มันง่ายกว่าในการพิสูจน์สีที่ไม่ต้องการ เหมือนที่คุณเห็นอยู่ด้านบน คุณเพียงแค่เปิด A หรือ B channel และดูถ้ายอดแหลมเอียงไปด้านหนึ่งของฮิสโตแกรม ถ้ามันเป็นอย่างนั้น คุณจะมีสีที่ไม่ต้องการเกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่ คุณก็ไม่ต้องทำอะไร ใน RGB คุณต้องเปรียบเทียบ channel และคุณต้องดูว่า channel อันหนึ่งเทียบกับอีกสอง channel
ทำไมไม่เหมือนกับการปรับค่า white balance?
คุณอาจจะเคยสังเกตว่า LAB colors มีลักษณะคล้ายกับตัวสไลด์ใน Lightroom หรือ Adobe Camera RAW (ACR) ซึ่งใช้ในการปรับ white balance ในรูปภาพของคุณ คุณสามารถคิดถึง LAB ในรูปแบบเดียวกันได้และมันอาจจะทำให้คุณเข้าใจว่าสีทำงานร่วมกันอย่างไร แต่การใช้ LAB ปรับเปลี่ยนสีมีข้อเสนอที่เป็นข้อดีเหนือกว่าการปรับใน white balance สิ่งหนึ่งคุณสามารถเปลี่ยนสีทีหลังในขบวนการทำงานปรับแต่งของคุณได้ และมันก็ไม่ได้เป็นการบังคับให้ทำด้วย อีกสิ่งหนึ่ง คุณสามารถใช้ข้อดีของ Photoshop layer และเลือกในการปรับเปลี่ยนสี แม้ว่า Lightroom และ ACR จะมีเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปรับค่า white balance ก็ตาม เหมือนกับ ตัวเลือก white balance (ตัวรูป dropper เล็กๆในแถบเครื่องมือ) หรือตัว presets มันไม่มีฮิสโตแกรมที่ให้คุณได้เห็นการปรับเปลี่ยนของคุณ

การนำสิ่งนี้ไปใช้กับขบวนการทำงานของคุณ

เทคนิคอะไรก็ตามที่แสดงในบทความนี้ที่คุณทำได้ คือสิ่งธรรมดาของ LAB color ในบทความที่แล้ว ผมได้แสดงให้คุณเห็นว่าการปรับเปลี่ยน LAB color ในขั้นพื้นฐาน ไม่ต้องคิดอะไรมาก การปรับจุดปลายของ A และ B channel โดยมีค่าที่เท่ากัน มันดูเหมือนว่าการปรับครั้งเดียวใช้ได้กับทุกๆ สถานการณ์ซึ่งมันใช้ไม่ได้กับภาพถ่าย เวลานี้คุณสามารถใช้การปรับสีที่เหมาะสมเพียงเล็กน้อย หรืออย่างน้อยก็ไม่ทำให้แย่ลงไปกว่านี้ในขณะที่คุณกำลังแก้ไขปรับแต่งภาพ
ผมได้พูดถึงการปรับสีที่ถูกต้องเหมือนกับว่ามันมีหนทางพิเศษที่ถูกต้อง แต่แน่นอนละมันไม่จริงเสมอไปและอะไรก็ตามเป็นสิ่งที่มันดูดีสำหรับผมมันอาจจะไม่เหมือนสิ่งที่ดูดีสำหรับคุณ ใช้การตัดสินใจของคุณเองและทำในสิ่งที่คุณเห็นว่ามันถูกต้องในทางของคุณ ขณะที่คุณปรับแต่ง คุณอาจจะต้องการเอนเอียงไปในทางหนึ่งหรืออีกทางหนึ่งก็ได้ จำไว้ว่าบางครั้งสีที่ไม่ต้องการสามารถเพิ่มผลที่เกิดขึ้นหรืออารมณ์ของภาพได้ บางครั้งการปรับเพียงเล็กน้อยของสีที่ไม่ต้องการก็ทำให้ภาพดูดีได้ ตัวอย่างเช่น สีโทนอุ่นถูกสร้างโดยสีเหลืองหรือสีแดงม่วงซึ่งสามารถเพิ่มในภาพของคุณได้ด้วย บางครั้งถ้ามีสีฟ้าก็ทำให้ภาพดูเหมาะเจาะ จำไว้ว่าสีเขียวไม่ทำให้ภาพดูดีและควรจะหลีกเลี่ยง ผมรู้ว่ามันทำให้เกิดความสับสนว่าสีไหนอยู่ข้างไหน และจะแก้ไขพวกมันอย่างไรใน LAB colorspace ลองทำมันแบบง่ายๆ สำหรับคุณ และนี้คือผัง (ดูภาพผังประกอบคำบรรยายในเว็ปไซต์ต้นฉบับ)

บทสรุป

LAB colorspace เป็นเครื่องมือที่มีพลัง ก่อนหน้านี้คุณได้เรียนว่าจะปล่อยพลังโดยใช้ LAB ขั้นพื้นฐานอย่างไร การใช้เทคนิคในบทความนี้ช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่เลวร้ายให้อยู่ในมือคุณได้เพียงเล็กน้อย มันจะยอมให้คุณใช้พลังของ LAB โดยปราศจากการได้สีที่ฉูดฉาดหรือสีที่ไม่ต้องการในภาพของคุณ มันจะยอมให้คุณแก้ไขสีที่ไม่ต้องการอย่างง่ายมากกว่าในการทำบน RGB ลองทำดูและดูว่ามันแก้ไขสีของคุณได้