Author Topic: จะหลีกเลี่ยงและลดน้อยส์ในภาพอย่างไร  (Read 6875 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
 จะหลีกเลี่ยงและลดน้อยส์ในภาพอย่างไร

โพสโดย Barry J Brady แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับเพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/how-to-avoid-and-red…/

การลดน้อยส์ในภาพของคุณสามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ของคุณภาพ ภาพถ่าย
เราได้เห็นภาพของเราซึ่งการที่มีผิวที่ไม่เรียบทำให้ภาพของเราดูไม่น่าดึงดูด ในสมัยของยุคฟิลม์ น้อยส์ เราเรียกมันเป็น เกรน และมันดูดีกว่า (คำว่า เกรน ดูเป็นคำพูดที่ดี) แต่ในยุคของดิจิตอล น้อยส์ เทียบได้กับภาพที่ดีสามารถทำให้ดูแย่ได้ คำถามแรกที่เราต้องการคำตอบคือ....
น้อยส์คืออะไร?
พูดกันตรงๆ น้อยส์คือสิ่งที่เบี่ยงเบนของตัวพิกเซล หมายความว่า พิกเซลไม่สามารถระบุสี หรือค่าแสงของภาพได้อย่างถูกต้อง คำถามถัดไปคือ...
น้อยส์เกิดขึ้นเมื่อไร?
น้อยส์จะเกิดขึ้นในภาพของคุณเมื่อคุณถ่ายภาพที่มีการเปิดค่ารับแสงนานๆ หรือถ่ายด้วยค่า ISO สูงๆ นั้นหมายความว่าคุณไม่ควรถ่ายภาพอะไรที่ใช้ค่า ISO ที่สูงเกินกว่า 100 หรือถ่ายแบบเปิดค่ารับแสงนานๆ งั้นหรือ? เปล่าเลย...มันมีบางเวลาที่คุณต้องการมัน หรือต้องการที่จะถ่ายภาพในสภาพแบบนั้น ช่างภาพวิวทิวทัศน์จะถ่ายในสภาพแสงน้อยตลอดเวลา สิ่งที่สำคัญที่ควรรู้คือ จะหลีกเลี่ยงอย่างไรไม่ให้มีน้อยส์มากเกินไปในภาพและเราจะรับมืออย่างไรกับการปรับแต่งภาพภายหลัง
ลองมาเริ่มกับ เราจะทำอย่างไรให้ได้น้อยส์ที่น้อยที่สุดในภาพถ่ายของเราเป็นลำดับแรก.....

1. การลดน้อยส์ในกล้อง

การถ่ายโดยใช้ค่า ISO ที่ต่ำที่สุด

ถ้ากล้องของคุณมีอายุสามปี หรือใหม่กว่า ระบบ ISO จะดีมาก คุณไม่ควรจะเห็นน้อยส์เยอะบนภาพถ่ายของคุณ แม้ว่าจะปรับค่า ISO ไปถึง 1000 อย่างไรก็ตามมันยังคงมีน้อยส์อยู่ดีเมื่อคุณปรับค่า ISO มากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถตั้งค่ารับแสงได้ การถ่ายด้วยค่า ISO ที่ต่ำหมายความว่าคุณจะได้น้อยส์ที่น้อยในภาพถ่ายของคุณ การตั้งค่า ISO ที่สูงเป็นการบอกให้เซนเซอร์ของกล้องคุณจับรวมกลุ่มของพิกเซลไว้ด้วยกันเพื่อให้ได้การรับแสงที่มากขึ้น การรวมกลุ่มเหล่านี้จะมีผลที่ทำให้ภาพของคุณดูเป็นเม็ดหยาบๆ และน่ารำคาญ
ดังนั้น เราจะหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพที่มีค่า ISO สูงอย่างไร? ถ้าเป็นไปได้ ให้คุณเปิดค่ารูรับแสงให้กว้างที่สุด เช่น ค่า f/2.8 ถ้าคุณถ่ายในสภาพแสงน้อย ใช้ขาตั้งกล้องถ้าเป็นไปได้ หรือคุณควรใช้แฟลช ถ้าไม่ใช่ทางเลือกเหล่านี้ที่ทำให้ค่ารับแสงที่ถูกต้อง ดังนั้นคุณก็ต้องเพิ่มค่า ISO ให้สูงขึ้น ลองทดสอบถ่ายดูก่อนเพื่อดูว่าระดับค่า ISO ไหนในกล้องของคุณที่เริ่มจะทำให้ภาพของคุณมีคุณภาพที่แย่ลง ในหลายๆปีผมถ่ายด้วยกล้อง Nikon D80 และผมรู้ว่าเมื่อตั้งค่า ISO ที่เกิน 500 มันยากที่จะใช้มัน เพราะว่าน้อยส์กลายเป็นสิ่งที่ยากในการเอามันออกไปจากภาพ แม้ว่าจะใช้ซอฟท์แวร์จากค่ายไหนก็ตาม และถ้าเอามันออกไปได้ภาพจะดูเหมือนภาพวาดสีน้ำซึ่งเกิดจากผลการปรับค่าน้อยส์ที่มากเกินไป ดังนั้นผมจะต้องรู้ว่าข้อจำกัดของกล้องผมและใช้ภายในข้อจำกัดนั้น

ถ่ายภาพในรูปแบบของ RAW

ผมรู้คุณจะรู้สึกหวั่นๆโดยการถ่ายภาพแบบ RAW แต่คุณก็ไม่ต้องการแบบนั้น RAW เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับภาพถ่าย ให้แน่ใจว่าได้ใช้มัน คุณไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพ RAW ตลอดเวลา แต่เมื่อคุณสังเกตว่าแสงเริ่มจะน้อยและดูมืดๆ ให้เปลี่ยนมาถ่ายเป็น RAW เหตุผลคือ ภาพ JPEG มันจะถูกบีบอัด มันหมายถึงว่ามันมีน้อยส์บางแล้ว และมันคือสิ่งที่เรียกว่า JPEG artefact ในภาพ ถ้าคุณกำลังใช้ค่า ISO ที่สูงกับไฟล์ JPEG น้อยส์จะยิ่งแย่ลงไปอีก ดังนั้นในการปรับแต่งภาพ ไฟล์ RAW จะมีความยืดหยุ่นในการเอาน้อยส์ออกไป และเพิ่มค่าการรับแสงมากกว่าไฟล์ JPEG
(ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ....โปรแกรม Adobe Photoshop Camera RAW เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการลดค่าน้อยส์)

ตรวจสอบค่ารับแสง

เมื่อกล้องดิจิตอลได้เข้ามาสู่ตลาดตอนแรกๆ พวกมันมีการปรับค่าไฮทไลท์ที่แย่ ช่างภาพหลายคน (รวมถึงผมด้วย) จะพยายามถ่ายภาพให้ underexpose เพื่อที่จะเก็บค่ารายละเอียดของไฮทไลท์เอาไว้ มันหมายถึงว่าส่วนที่เป็นเงาจะดำมืดและคุณจะดึงมันขึ้นมาด้วย Photoshop น้อยส์ก็จะปรากฎขึ้นชัดเจน นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ และในยุคใหม่ๆ ของกล้องดิจิตอลจะรับมือในเรื่องของไฮทไลท์และเงาได้ดีกว่า ผลก็คือว่า คุณสามารถได้ค่ารับแสงที่ถูกต้องปราศจากความกลัวที่จะมีน้อยส์ในส่วนที่เป็นเงา หรือปัญหาในส่วนไฮทไลท์ ความจริงแล้วคุณสามารถปรับ overexpose ได้นิดหนึ่งเพื่อจะให้ส่วนที่เป็นเงาสว่างกว่าปกติและและคุณจะดึงค่าไฮทไลท์ลงได้ใน Photoshop ผมก็กำลังทำสิ่งเหล่านี้ในปัจจุบันและมันน่าทึงมากว่ารายละเอียดมากมายที่ตัวเซนเซอร์ใหม่ๆสามารถจับได้ในส่วนของไฮทไลท์ ระวังอย่าปรับ over มากเกินไป สังเกตว่าคุณต้องไม่ตัดไฮทไลท์ที่เป็นรายละเอียดที่ทำให้เสียในส่วนที่ดีไป

ให้ระวังเมื่อทำการถ่ายภาพที่เปิดค่ารับแสงนานๆ

การเปิดค่ารับแสงที่นานสร้างภาพที่ดูมีชีวิตชีวาได้ แต่ถ้ามันเปิดนานเกินไป ตัวเซนเซอร์ของกล้องสามารถสร้างความร้อนและพิกเซลจะแสดงค่าสีที่ไม่ถูกต้องและการรับแสง คุณสามารถเปิดค่ารับแสงนานๆ ได้ แต่ให้ระวังเรื่องการรับมือของกล้องที่ต้องเปิดค่ารับแสงนานด้วย ภาพจะมีเม็ดหยายๆ เยอะไหม? ทดสอบมันดูและดูว่ากล้องของคุณเริ่มที่จะต่อต้าน ให้แน่ใจว่าคุณไม่ถ่ายภาพเปิดค่ารับแสงที่นานกว่าที่กล้องของคุณจะทำงานได้ สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญคือคุณต้องรู้ข้อจำกัดของอุปกรณ์และการถ่ายที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัด นี้คือสิ่งที่จะมั่นใจว่าได้ภาพที่ดีและง่ายต่อการปรับแต่งแก้ไข
(ดูภาพในเว็ปไซต์ต้นฉบับ.....การถ่ายภาพแบบเปิดค่ารับแสงนาน สามารถเน้นน้อยส์ในภาพได้)

ใช้ค่าการลดน้อยส์ในกล้อง

ในกล้องส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า High ISO Noise Reduction หรือ Long Exposure Noise Reduction มันเป็นความคิดที่ดีในการเปิดใช้งานพวกมันถ้าคุณต้องถ่ายภาพที่ใช้ค่า ISO สูงๆ หรือเปิดค่ารับแสงนานๆ เหตุผลของมันคือ เมื่อภาพถูกถ่ายไปแล้ว กล้องจะทำการวิเคราะห์และมองหาพิกเซลที่มีค่าไม่ถูกต้อง มันจะทำการแก้ไขพิกเซลที่ไม่ถูกต้องเหล่านั้น มันใช้เวลาบ้าง ขึ้นอยู่กับค่าของเวลาการเปิดรับแสงตอนถ่าย ดังนั้นถ้าคุณถ่ายภาพที่ยาวเท่ากับ 30 วินาที กล้องจะใช้เวลาการวิเคราะห์และแก้ไขเท่ากับ 30 วินาทีเช่นกัน สิ่งนี้จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่ามีประสิทธิภาพในการนำมาใช้งานถ้าคุณถ่ายมันที่ 10 นาที แต่มันก็แย่เหมือนกันถ้าถ่ายในช่วงเวลาการเปิดรับแสงที่สั้นกว่า ถ้าคุณมีเวลาลองถ่ายมันในการเปิดรับแสงที่นานโดยที่มันสามารถพัฒนาคุณภาพของภาพถ่ายได้
(ดูภาพตัวอย่างในเว็ปไซต์ต้นฉบับ.....ภาพถ่ายที่ใช้การลดค่าน้อยส์ในกล้องสำหรับการเปิดค่ารับแสงนที่ยาวและสภาพแสงที่น้อย)

2. การแก้ไขค่าน้อยส์ในโปรแกรม Lightroom หรือ Photoshop

เมื่อคุณได้ถ่ายภาพมาแล้ว คุณต้องที่จะเปิดภาพเหล่านั้นในโปรแกรม Lightroom หรือ Photoshop เพื่อจะดูภาพว่าเป็นอย่างไร มันเป็นความคิดที่ดีในการขยายภาพของคุณที่ 100% เพื่อดูรายละเอียดของน้อยส์ในภาพ เมื่อคุณเริ่มปรับแต่งให้แน่ใจว่าคุณขยายภาพมาดูที่ 100% (อัตราส่วน 1:1 ในโปรแกรม Lightroom) แต่ให้ลดการขยายภาพให้เห็นภาพเต็มเพื่อให้แน่ใจว่า ภาพรวมทั้งหมดดูดีแล้ว

ขบวนการขั้นตอนในการลดน้อยส์ในโปรแกรม Lightroom และ Photoshop Camera RAW

การควบคุมในโปรแกรม Lightroom และ Photoshop Camera Raw จะเหมือนกัน ข้างล่างนี้คือภาพรวมการปรับแต่งค่าและการใช้มันอย่างไร ในโปรแกรม Lightroom คุณจะพบเครื่องมือการปรับค่าน้อยส์ในโมดุลของ Develop และในส่วนหัวเรื่องของ Camera RAW คุณจะพบแท็ปที่สามทางด้านขวามือของจอ มันคือรายละเอียดของแท็ป
(ดูภาพประกอบในเว็ปไซต์ต้นฉบับ...ตัวสไลด์ที่ควรจะทำการปรับ)
ตัวสไลด์การลดค่าน้อยส์ใน Photoshop Camera Raw เหมือนกันกับใน Lightroom

ค่า Luminance (ระดับความเข้มของแสงสว่าง)

การลดค่าน้อยส์ของ luminance ซึ่งค่าน้อยส์เกิดมาจากแสงที่มี pixel over หรือ under ซึ่งมันสามารถพบได้บ่อยๆเมื่อเปิดค่ารับแสงนานๆ

ค่า Luminance Detail (รายละเอียดของระดับความเข้มของแสงสว่าง)

การควบคุมค่าเริ่มต้นของ luminance noise สิ่งนี้ดีสำหรับภาพที่มีน้อยส์มาก ค่าที่สูงในการปรับจะคงรายละเอียดไว้มากกว่าแต่สามารถผลิตน้อยส์เยอะกว่าด้วย ค่าที่ต่ำลงจะให้ความสะอาดของภาพแต่มันจะทำให้รายละเอียดบางอย่างหายไปด้วยเช่นกัน

ค่า Luminance Contrast (ความเปรียบต่างของค่าความเข้มของแสงสว่าง)

การควบคุมความเปรียบต่างของค่าความเข้มของแสง มีประโยชน์กับภาพที่มีน้อยส์ ค่าที่สูงในการปรับจะคงความเปรียบต่าง แต่มันสามารถผลิตรอยจุดด่างหรือแต้ม ค่าที่ต่ำในการปรับจะให้ความราบเรียบแต่จะมีความเปรียบต่างน้อย

สี

ลดค่าน้อยส์ที่เป็นสี สิ่งนี้บ่อยครั้งที่สังเกตได้ในภาพที่มีเงาในภาพ ซึ่งเกิดจากถ่ายแบบ underexposed

รายละเอียดของสี

การควบคุมรายละเอียดของน้อยส์ที่เป็นสี ค่าที่สูงในการปรับจะป้องกันความบางในรายละเอียดของขอบสี แต่สามารถสร้างสีที่เป็นแต้มจุดได้ ค่าที่ต่ำในการปรับจะนำเอาจุดแต้มสีออกไปแต่สามารถทำให้สีซึมออกมา

ความราบเรียบของสี

ตัวสไลด์ในการควบคุมความราบเรียบของสีในภาพ สิ่งนี้จะมีประโยชน์ถ้าคุณยังคงมีสีที่ไม่ปกติในภาพหลังจากที่คุณได้ทำการปรับจากตัวเลือกด้านบนมาแล้ว ใช้สิ่งนี้เป็นตัวจบในการลดค่าน้อยส์ในงานของคุณ

บทสรุป

ไม่มีมาตราฐานในการปรับแต่งที่จะทำงานกับทุกๆ ภาพถ่าย คุณจะต้องเลื่อนสไลด์แต่ละการปรับแต่งจนกระทั่งคุณพบผลลัพท์ที่คุณพอใจและดูว่ามันเปลี่ยนแปลงที่มีปฎิกิริยาต่อกันอย่างไร ผมจะเลื่อนสไลด์ค่า Luminance และ Color ไปประมาณที่ 50 และใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการปรับแต่ง ผมจะเลื่อนแต่ละตัวเลือกขึ้นและลงอย่างระมัดระวังเพื่อดูสิ่งที่มีผลกระทบกับรูปภาพ ครั้นเมื่อผมพอใจกับการปรับแต่งแล้ว ผมก็จะไปปรับแต่งในตัวอื่นต่อไปจนจบกระบวนการ ผมทำแบบนี้ในขณะที่ผมก็ซูมภาพเข้ามาดูที่ 100% และหลังการปรับแต่งแต่ละตัว ผมจะซูมออกไปเพื่อดูภาพรวมถึงผลที่ได้ในภาพ ฟังดูแล้วน่าเบื่อหน่าย แต่ถ้ามันเสร็จตามขั้นตอนคุณจะสามารถกำจัดพวกน้อยส์กับภาพอื่นๆ ได้ง่ายๆ การฝึกฝนคือสิ่งสำคัญลองทำกับภาพต่างๆ ที่คุณสามารถทำได้และในไม่ช้าคุณจะสามารถคาดการณ์กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงได้เลย