คำแนะนำสำหรับการถ่ายภาพในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
โพสโดย Monica Day แปลโดย Topstep07
เว็ปไซต์ต้นฉบับ เพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/tips-for-photographing-in-different-weather-conditions/คุณคิดว่าการถ่ายภาพมันสุดยอด..คุณมีเครื่องมือ คุณรู้การถ่ายภาพพื้นฐาน คุณรู้ถึงสามเหลี่ยมของ ISO, ค่าความเร็วชัตเตอร์ และค่ารูรับแสง เวลานี้แหละที่คุณพร้อมจะต้องนำมาพวกมันมาใช้ คุณพร้อมที่ออกไปและทดสอบ แต่คอยก่อน.....คุณยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศเลย นี้คือสิ่งเล็กๆของการถ่ายภาพที่เราบ่อยครั้งมักจะลืม ถ้าคุณไม่ได้ถ่ายภาพในสตูดิโอ ดังนั้นสภาพดินฟ้าอากาศจะเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อคุณกำลังออกไปถ่ายภาพ
มีขั้นตอนพื้นฐานของเรื่องสภาพภูมิอากาศบางเรื่องที่คุณจะต้องพบเมื่อคุณเป็นช่างภาพ วันเมฆมากหรือมีแต่เมฆปกคลุม ฝนตก แดดจ้า วันที่ร้อนจัดอุณหภูมิสุง และวันที่มีหิมะ สภาพอากาศที่กล่าวมาเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ผมจะพูดถึงบางส่วนและรวมไปถึงคำแนะนำในการถ่ายภาพในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
วันที่มีเมฆ หรือ เมฆปกคลุมไปทั่ว
นี้คือสภาพที่ผมชอบในการถ่ายภาพบุคคล วันที่มีเมฆปกคลุมจะนำมาซึ่งสภาพแสงที่ได้ถูกกรองอย่างน่าอัศจรรย์ คุณสามารถถ่ายภาพในช่วงตอนเที่ยงๆโดยมีความกังวลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแสงที่แข็งหรือเงาจากตัวแบบที่ไม่ต้องการ คุณไม่ต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับแสงบนใบหน้ามากนัก มันจะดีมากที่มีตัวสะท้อนแสงที่สะท้อนแสงไปยังใบหน้าของตัวแบบของคุณ ให้แน่ใจย่าคุณได้มองดูภาพนั้นซึ่งมันจะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณถ่ายภาพ under หรือ over ค่ารับแสง คุณยังสามารถบอกได้ว่าถ้าคุณต้องการการสะท้อนแสงที่มากบนตัวแบบ ลองดูภาพถ่ายบุคคลด้านบน (ดูภาพต้นฉบับบจากในเว็ปไซต์)
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ในวันสภาพที่มีเมฆปกคลุมก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย สภาพฟ้าที่มีเมฆปกคลุมจะเป็นสีเทาและไม่มีอะไรที่น่าสนใจที่จะเพิ่มเข้าไปในวิวของภูเขา หรือทุ่งนาที่มีวัวอยู่ ลองดูสภาพอากาศที่มีพายุ มันจะเพิ่มในส่วนของความรู้สึกถึงสถานที่และขนาด คุณสามารถตัดส่วนของภาพเพื่อเอาส่วนที่เป็นเมฆสีเทาออกไป แต่ยังคงมีแสงที่เยี่ยม
ประโยชน์ที่ได้....ความสวยงามของแสงที่มีการกรอง
ข้อจำกัด....มีเมฆสีเทาที่ดูน่าเกลียด
วันที่มีฝน
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวันที่มีเมฆมากกลายเป็นฝนในการถ่ายภาพของคุณ? แน่นอน คุณต้องเผชิญกับมัน ฝนเพียงเล็กน้อยไม่ได้ทำอันตรายกับใคร ทางที่ดีที่สุดทางหนึ่งในการเผชิญกับฝนคือให้นำร่มไปด้วย ลองหาร่มที่ดีไว้สักอันกับอุปกรณ์การถ่ายภาพของคุณ ลองมองหาร่มที่ใสที่จะบังหัวของคุณ มันทำให้ภาพดูแปลกตา คุณสามารถได้สีที่สวย ลองกับลายจุดของผ้าหรือใช่ร่มเป็นส่วนหนึ่งของภาพถ่าย คุณไม่ต้องใช้มันกับทุกๆ ภาพแต่ก็ไม่ต้องกลัวในการที่จะมีพวกมันรวมอยู่ด้วย
ลองมองหาพื้นที่ที่กันจากฝน ชายคา ช่องทางเดิน หรือร้านกาแฟที่สามารถให้คุณได้พื้นที่ดีๆ สำหรับการถ่ายภาพของคุณ ฝนสามารถช่วยคุณเล่าเรื่องถ้าคุณต้องการมัน ในท้ายสุดของการถ่ายลองถ่ายตัวแบบของคุณถ้าพวกเขายินดีที่จะเปียก ลองดูว่าคุณได้อะไรบ้างและให้ลองกับสิ่งที่แตกต่างขณะที่คุณกำลังเรียนรู้ในสภาพอากาศแบบนี้
แน่นอนฝนจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน คุณต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณได้รับการป้องกัน คุณไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์กันฝนที่หรูหร่าถ้ามันไม่ได้อยู่ในงบประมาณของคุณ ใช้ถุงพลาสติกจากร้านขายของชำและเทปเพื่อป้องกันตัวกล้อง ถ้าสภาพอากาศมันเลวร้ายมาก ลองจัดตารางเวลาของคุณใหม่สำหรับวันที่มีฝนน้อย อีกครั้งหนึ่ง ความปลอดภัยเป็นกุญแจสำคัญ
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ในฤดูฝนจะให้เรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ ให้แน่ใจว่าคุณระวังเรื่องการตั้งค่าโฟกัส กล้องของคุณจะพยายามโฟกัสไปที่หยดน้ำฝนและมันจะเบลอในส่วนของวิวทิวทัศน์ สิ่งนี้จะดีมากถ้าคุณตั้งใจให้เป็นแบบนั้น ถ้าไม่ใช่ คุณจะจบด้วยการมีภาพที่เบลอ
ประโยชน์ที่ได้....เพิ่มมิติและความรู้สึกของเรื่องราวและสถานที่
ข้อจำกัด...อุปกรณ์จะไม่ทนกับสภาพอากาศและความไม่สะดวกสำหรับตัวแบบ
วันที่แสงแดดจ้า
หลายคนคิดว่าวันที่แสงแดดจ้าคือวันที่ฝันร้ายในการถ่ายภาพบุคคลของช่างภาพ ผมคิดแตกต่าง วันที่แสงแดดจ้าสามารถสร้างแสงที่สวยงามและคุณสามารถเล่นกับเงาถ้าคุณชอบ (อ่านเรื่อง Dispelling the Myth of Good Light and Bad Light สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในหัวข้อนี้)
เมื่อถ่ายภาพในวันที่แสงแดดจ้า คุณจะพบว่ากล้องจะวัดค่าแสงที่ทำให้ฉากหลังสว่างมาก หรือตัวแบบที่อยู่ข้างหน้าคุณ เพราะว่าตัวแบบของคุณมันมืดมากหรือตัวฉากหลังของคุณมันสว่างมาก ลองถ่ายภาพใน ร่มเงา หมายถึงว่าให้คุณวางตัวแบบของคุณให้อยู่ในส่วนร่มเงาที่ใกล้ๆแสง และใช้แสงสะท้อนกับตัวสะท้อนแสงกลับไปที่ตัวแบบ คุณสามารถใช้แฟลชและให้แน่ใจว่ามันไม่ยิงแสงที่ที่ขาวเกินไปในฉากหลัง แฟลชในช่วงแดดจ้าเนี้ยนะ? ผมรู้มันฟังดูแปลกๆ แต่มันได้ผล ใช้แฟลชกับตัวแบบของคุณขณะที่มันเปิดเผยฉากหลัง คุณสามารถมองหาพวกตัวสะท้อนแสงที่เป็นธรรมชาติรอบๆ ตัวคุณ ลองมองหาตึกสีขาวหรือพื้นทรายตามชายหาดที่สีขาว สิ่งเหล่านี้จะช่วยสะท้อนแสงไปบนตัวแบบของคุณที่ปราศจากการทำให้ฉากหลังขาวโพล่นที่ไม่เห็นรายละเอียด
ภาพวิวทิวทัศน์ในช่วงแดดจ้าก็มีความสวยงาม ลองถ่ายภาพชายหาดในวันที่มีแดดจ้า ลองถ่ายให้เห็นภาพท้องฟ้าสีฟ้าที่สวยงามเท่าๆ กับพื้นทราย
ประโยชน์.....มีแสงมากมายและสามารถเล่นกับเงาได้
ข้อจำกัด....มันสามารถสร้างแสงที่แข็งกระด้างบนตัวแบบ
ช่วงเวลาที่มีอุณหภูมิสูง
ส่วนใหญ่พวกเราจะถ่ายภาพในช่วงฤดูร้อน มันจะสวยมากในช่วงดวงอาทิตย์ตกและมีฟ้าที่สวยงาม แต่อุณหภูมิมันก็โหดร้าย มันดีมากถ้าจะป้องกันด้วยเสื้อโค้ทหรือเสื้อผ้าหนาๆ แต่ความร้อนมันไม่น่าสนุกเลย คุณต้องแน่ใจว่าตัวคุณเองและตัวแบบอยู่ในสภาพที่สบายๆและปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัย ผมจะจำกัดการถ่ายของผมเมื่ออุณหภูมิหรือความร้อนมีค่าต่ำกว่า 90 องศาฟาเรนไฮต์ (หรือ 32 องศา C) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณกำลังถ่ายภาพอยู่ ใน เปอร์โต ริโก้ 90 องศาที่ชายหาดยังให้ความรู้สึกที่ดี ในบอสตัน ที่ 90 องศาในเมืองจะรู้สึกไม่มีความสุขเลย
ลองดูว่าตัวแบบของคุณรู้สึกอย่างไรในระหว่างการถ่ายภาพ ถ้าคุณสังเกตว่าพวกเขาไม่สะดวกสบาย ถามพวกเขาและจัดตารางเวลาถ่ายภาพใหม่อีกครั้งถ้าจำเป็น
ประโยชน์....คุณและตัวแบบของคุณสามารถสามารถใช้โค้ทหรือเสื้อผ้าที่จำกัด
ข้อจำกัด...อุณหภูมิที่สูงสามารถดูดพลังงานและไม่สะดวกสบาย
ช่วงเวลาที่มีหิมะ
การถ่ายภาพในช่วงที่มีหิมะมันน่าอัศจรรย์ มันสวยงามและสีขาวของหิมะสะท้อนแสงอย่างน่าประหลาดใจ การถ่ายในพายุหิมะ ไม่เกิดขึ้นบ่อย การถ่ายในอุณหภูมิ 10 องศาฟาเรนไฮต์ (-12c) มันเป็นสิ่งที่แย่ เมื่อคุณถ่ายภาพในหิมะ ต้องให้ความระมัดระวังเรื่องน้ำแข็งและอันตรายภายใต้ปุยนุ่มของหิมะ
คุณสามารถถ่ายภาพในขณะที่หิมะกำลังตกหรือช่วงเวลาที่หิมะหยุดตกแล้วก็ได้ ถ้าคุณถ่ายในช่วงหิมะกำลังตกให้คุณดูแลกล้องของคุณเหมือนถ่ายในช่วงฝนตก หิมะจะละลายเป็นน้ำและเข้าไปในกล้องและเลนส์ของคุณได้ อย่ากลัวที่จะบอกให้ตัวแบบเอาเสื้อโค้ทของเขาออก คุณรู้ว่าหิมะไม่ได้ทำให้หนาวจนทนไม่ได้กับความเย็น ถ้าตัวแบบของคุณถอดเสื้อโค้ทออกและถ่ายภาพสักสองสามภาพและให้พวกเขาใส่เสื้อกลับเพื่อให้ร่างกายอุ่นเหมือนเดิม
ลองเล่นกับการเก็บภาพในขณะที่หิมะตก เมื่อหิมะกำลังตกท้องฟ้าจะมีเมฆมาก สีขาวของหิมะจะทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนแสงเล็กน้อยซึ่งคุณสามารถละเลยมันได้ ออกไปข้างนอกและฝึกฝนในการถ่ายและมองดูว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ คุณไม่ต้องการที่จะผจญภัยกับพายุหิมะแน่ๆ
ถ้าหิมะหยุดตกแล้วคุณต้องระวังน้ำแข็งและอันตรายภายใต้หิมะ มันจะไม่เจ็บปวดในการป้องกันกล้องของคุณในกรณีที่คุณล้มลงเพียงเล็กน้อย อีกครั้งหนึ่ง หิมะจะสะท้อนความสวยงาม ให้แน่ใจว่าคุณกำลังวัดค่าแสงที่ตัวแบบและให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการที่ไม่ทำให้หิมะสีขาวขาดรายละเอียดไป
ประโยชน์....มันสวยงามและหิมะให้ความรู้สึกถึงเวลา
ข้อจำกัด...มันหนาวเย็นและทำลายอุปกรณ์คุณได้
จำไว้ว่า...ให้คุณดูแลเป็นพิเศษถึงความปลอดภัยในทุกๆ ครั้ง ความปลอดภัยตัวคุณเอง ตัวแบบของคุณ และอุปกรณ์ของคุณที่มีความสำคัญ ใช้สภาพอากาศเป็นข้อดีของคุณในการทำงานกับสภาพแสงต่างๆ อย่ากลัวที่จะเอาแฟลชไปด้วยหรือตัวสะท้อนแสง สุดท้ายนี้ ขอให้สนุกกับสภาพอะไรก็ตามที่คุณกำลังถ่ายภาพอยู่...