Author Topic: ถ่ายภาพ Light Trails อย่างไร  (Read 5924 times)

Offline topstep07

  • PS:C
  • Full Member
  • *
  • Posts: 108
    • View Profile
ถ่ายภาพ Light Trails อย่างไร
« on: October 17, 2014, 10:35:48 AM »
ถ่ายภาพ Light Trails อย่างไร

โพสโดย Darren Rowse แปลโดย Topstep07

เว็ปไซต์ต้นฉบับ เพื่อดูภาพประกอบคำบรรยาย
http://digital-photography-school.com/how-to-shoot-light-trails/

ในหนึ่งตัวแบบแรกที่ผมจำได้และพยายามที่จะเก็บภาพเมื่อสมัยเป็นวัยรุ่นกับกล้อง SLR (ฟิลม์)ตัวแรกของผมก็คือ การถ่าย Light Trails ซึ่งมันถูกสร้างจากไฟของรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนใกล้บ้านผม ผมเห็นการถ่ายภาพแบบนี้ในหนังสือนิตยสารและมันก็ดูสะดุดตาที่จับจ้องมัน  Light Trails ยังคงเป็นแบบที่ได้รับความนิยมสำหรับช่างภาพหลายคน พวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างดีสำหรับการใช้กล้องของพวกเขาโดยไม่ใช้โหมด manual และทดลองกับการถ่ายในสภาพแสงที่น้อยกับการเปิดรับแสงที่นาน ลองตามดูตัวอย่างของการถ่ายภาพ Light Trails และลองฝึกฝนกับจุดเริ่มต้นของคำแนะนำต่อไปนี้
อุปกรณ์.....ไม่ได้มีเพียงแบบเดียวของกล้องและชุดอุปกรณ์ที่คุณต้องการในการเก็บภาพ light trails อย่างไรก็ดีมันมีความสำคัญสำหรับกล้องที่ยอมให้คุณควบคุมการตั้งค่าที่ over ได้โดยทั่วไปคือยอมให้คุณตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ค้างนานได้ มันหมายความว่าคุ๖ต้องการกล้องที่มีความสามารถในการถ่ายภาพในโหมด manual และ/หรือ โหมดความเร็วชัตเตอร์ (หรืออะไรก็ตามที่ทำให้กล้องคุณอยู่นิ่งๆ) ขณะที่คุณถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ยาวโดยการใช้มือเปล่าถือกล้องถ่ายนั้นเป็นไปไม่ได้
มันไม่สำคัญแต่มันช่วยคุณได้ถ้าคุณมีเลนส์ฮูด (ช่วยกันเลนส์จากแสงแฟร์ที่เกิดจากแสงแวดล้อม) สายลั่นชัตเตอร์ หรือตัวควบคุมกล้องไร้สาย ความอดทน และเสื้อผ้าที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น ถ้าคุณต้องออกไปพบกลางคืนที่หนาวยะเยือก
หลักการพื้นฐาน
โดยทั่วไปสำหรับระดับการถ่ายภาพ light trails คือค้นหาจุดที่ซึ่งคุณเห็น light trails ที่มาจากรถ จุดที่กล้องดิจิตอลของคุณปลอดภัย ตั้งค่าการถ่ายภาพที่ใช้เวลาในการเปิดรับแสงนานบนกล้องของคุณ ในขณะที่รถวิ่งผ่านโดยมีแสงไฟส่องมา แน่นอนไม่มีอะไรยุ่งยากไปกว่านี้ แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยเบื้องหลังคือ การเปิดค่ารับแสงนาน เพื่อจะทำให้ลำแสงไฟของรถสร้างเส้นทางการเคลื่อนที่บนรูปภาพ

การทดลอง

ขณะที่มีคำแนะนำมากมายที่ถูกแบ่งปันในหัวข้อการถ่ายภาพ light trails สิ่งที่เป็นหลักที่ผมได้เรียนรู้กับการพยายามในการสร้างภาพในรูปแบบนี้คือ การทดลองที่ครอบคลุมภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลที่สวยงาม คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษใดๆ และสามารถได้ผลลัพท์ทันที (ไม่เหมือนเมื่อผมใช้กล้องฟิลม์ต้องรอเอาฟิลม์ไปล้างและต้องคอยกระบวนการล้าง และรอที่จะเห็นภาพพวกนั้น)
การตั้งค่าในการถ่ายภาพ
การถ่ายภาพ light trails ไม่ใช่เรื่องยาก มันง่ายมากในการค้นหาถนนที่มีรถวิ่งผ่านในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน แต่การถ่ายภาพนั้นต้องตั้งใจในการใส่ความคิดในการเลือกสถานที่ คิดถึงระยะเวลาและการวางกรอบภาพ นี้คือคำแนะนำบางอย่างในการตั้งค่าถ่ายภาพของคุณ
•   ระยะเวลา/แสง......บางคนคิดว่าช่วงเวลาเที่ยงคืนคือเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ light trails (และมันสามารถเป็นได้) อย่างไรก็ดี เวลาที่ได้ผลดีในการถ่ายภาพคือช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกดิน (ก่อนและหลัง) ถ้าคุณถ่ายในช่วงเวลานี้นอกจากคุณจะได้แสงไฟจากรถแล้วคุณยังได้แสงแวดล้อมบนท้องฟ้า ซึ่งเพิ่มชั้นบรรยากาศในรูปภาพของคุณอีกด้วย คุณอาจจะพบว่าช่วงตอนเย็นๆคุณจะเห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อยในการถ่ายภาพกับรถที่มากและการเคลื่อนที่ของผู้คน
•   การสร้างสรรค์ทัศนียภาพ.......บางครั้ง light trails ที่ได้ผลดีในการถ่ายที่เคยถ่ายและเห็นจากคนอื่นคือการถ่ายจากมุมทัศนียภาพมากกว่าความสูงของคนที่ยืนตามปกติ ก้มต่ำลงและหาสถานที่มองลงไปที่ฉากของคุณเพื่อจะสร้างภาพในมุมที่ไม่ธรรมดา
•   สถานที่......สิ่งที่ชัดเจนกับสถานที่คือ คุณต้องการสถานที่บางแห่งที่ใกล้กับถนน อย่างไรก็ตามให้เราคิดมากกว่านั้น เลือกสถานที่ที่เพิ่มความน่าสนใจในการถ่ายภาพ มันอาจจะเป็นที่ซึ่งแสงจากตึกส่องตามถนน หรือที่ซึ่งมีถนนหลายๆสายมาบรรจบเข้าด้วยกันที่สร้าง light trail ในทิศทางที่แตกต่างกัน บนถนนที่โค้งก็นำพาเส้นแสงผ่านไปในภาพได้ ใกล้ๆวงเวียนเส้นลำแสงก็จะมีรูปทรงเป็นวงกลม ในกึ่งกลางของถนนคู่ขนาน (บนเกาะกลางที่มีสัญญาณไฟจราจร) ดังนั้นคุณจะได้ภาพการจราจรที่มาจากสองทิศทาง และอื่นๆ
•   กรอบภาพ.....กฎทั่วไปของการวางองค์ประกอบภาพถูกใช้กับการถ่ายภาพแบบนี้ ภาพถ่ายต้องการจุดน่าสนใจ กฎสามส่วนสามารถนำมาใช้อย่างได้ผลดี การใช้เส้นแสงในการนำสายตาในภาพของคุณ ฉากหน้าและฉากหลังควรจะถูกเพิ่มเข้าไปแต่ต้องไม่ดึงความสนใจของภาพนั้น

การตั้งค่า

•   รูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์ ผมคิดว่าผมสามารถให้ค่าความเร็วชัตเตอร์และค่ารูรับแสงที่ใช้งานได้ในทุกๆ สถานการณ์ แต่ขณะที่แสงแวดล้อมและความเร็วของรถจะมีความแตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์ ดังนั้นไม่มีค่ารับแสงที่ผสมผสานกันเพียงค่าเดียวจะทำงานได้ในทุกๆการตั้งค่า
ถ้าผมจะพูดแบบนี้ ผมพบว่าผมถ่ายภาพในความเร็วชัตเตอร์ระหว่าง 10-20 วินาที (ซึ่งมีเวลาให้รถได้วิ่งผ่านเข้ามาในกรอบภาพ) และค่ารูรับแสงในช่วงกลาง (เริ่มจากค่า f/8)
กุญแจสำคัญคือ เริ่มกับบางสิ่งในช่วงที่สูงกว่าและทดลองถ่ายภาพสองสามภาพเพื่อดูว่าค่ารับแสงเป็นอย่างไร คุณจะรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าการถ่ายภาพมัน under หรือ over และช่วงระยะเวลาการเปิดค่ารับแสงที่นานเพียงพอที่จะให้รถวิ่งผ่านเข้ามาในกรอบภาพในทิศทางที่คุณต้องการ
ถ้าคุณถ่ายภาพออกมา over ให้ปรับค่ารูรับแสงลง (เพิ่มตัวเลข f stop) หรือถ้าคุณถ่ายออกมา under ก็เปิดค่ารูรับแสงให้เพิ่มขึ้น (ลดตัวเลข f stop) ถ้าคุณต้องการให้แสงไฟของรถวิ่งผ่านกรอบภาพก็ให้ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ยาว และถ้าคุณต้องการให้เส้นแสงน้อยก็ให้ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่สั้น
จำไว้ให้ขึ้นใจว่า ค่ารูรับแสงมีผลกับความชัดตื้นชัดลึก ถ้าคุณต้องการใช้ค่ารูรับแสงที่ใหญ่คุณจะลดความชัดตื้นชัดลึกและถ้าคุณใช้ค่ารูรับแสงที่เล็กมันจะหลุดจากโฟกัส

•   ฮิสโตแกรม.....สิ่งหนึ่งที่เฝ้าดูแหล่งกำเนิดแสงในภาพ (ไม่ว่ามันจะมาจากไฟหน้ารถ ไฟถนน และอื่นๆ) ที่ทำลายภาพของคุณ แสงที่สว่างมากสามารถให้ไขว่เขว้และดึงสายตาของผู้ชมภาพออกจากจุดหลักของภาพ ทางที่เร็วที่สุดในการตรวสอบว่าพื้นที่ไหนของการถ่ายภาพมีค่าที่ over คือการดูจากค่า ฮิสโตแกรม ถ้าพื้นที่ที่ไม่รายละเอียดคุณจะเห็นตัวกราฟไปทางด้านขวาและมีความสูงของกราฟที่มาก
•   เลือกตั้งค่า ISO ที่ต่ำๆ.....สิ่งนี้จะช่วยให้ภาพของคุณมีค่านอยส์ที่น้อยเท่าที่จะเป็นไปได้
•   ถ่ายภาพด้วยไฟล์ RAW ถ้ากล้องคุณทำได้.......สิ่งนี้จะสามารถทำให้คุณควบคุมการปรับแต่งภาพที่หลังได้ ในการตั้งค่าไวท์บาลานซ์ที่ถูกต้อง (บางสิ่งที่มันสำคัญขณะที่คุณถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีแสงไฟมากมายซึ่งมีหลากหลายสีในภาพถ่าย)
•   โฟกัสภาพด้วย manual......ในสถานการณ์สภาพแสงน้อยกล้องสามารถที่จะพยายามลีอคโฟกัสที่ถูกต้อง สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือ กล้องของคุณจะเข้าๆ ออกๆในการโฟกัสขณะที่คุณจะกดปุ่มชัตเตอร์ ปรับไปเป็นโฟกัสแบบ manual และให้แน่ใจว่าการโฟกัสของคุณมีพลังในการถ่ายภาพนั้น
เวลาในการถ่ายภาพ
ไม่มีทางที่ถูกหรือผิดของเวลาในการถ่ายภาพแบบนี้ การกดชัตเตอร์ก่อนที่รถจะเข้ามาในกรอบภาพและปล่อยชัตเตอร์หลังจากที่มันวิ่งผ่านไปแล้วมันจะสร้างเส้นที่ไม่ขาดจากกัน แต่บางครั้งการถ่ายภาพกับเวลารับแสงที่สั้นกว่าขณะที่รถอยู่ในกรอบภาพก็ได้ผลเช่นเดียวกัน อีกครั้บหนึ่งมันคือการทดลองกับช่วงเวลาที่แตกต่างกันและดูผลที่ได้ว่าเป็นอย่างไร

การใช้โหมด B (Bulb)

กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่มีโหมดที่เรียกวันว่า bulb โหมด B ที่ยอมให้คุณเปิดชัตเตอร์ได้นานเท่าที่คุณต้องการ สิ่งนี้สะดวกในการถ่ายภาพที่คุณคิดไว้ก่อนล่วงหน้า ถ้าคุณถ่ายภาพแบบนี้คุณต้องใช้สายลั่นชัตเตอร์เพื่อที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของกล้องขณะที่ม่านชัตเตอร์มันถูกเปิดอยู่