เรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องความไวชัตเตอร์ (Shutter Speed) ว่ามันคืออะไร มีผลอย่างไร และจะใช้มันยังไง?สปีดชัตเตอร์ เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยหลักในการควบคุมปริมาณแสงและลักษณะของภาพถ่าย เมื่อแสงเดินทางผ่านเลนส์เข้ามายังตัวกล้อง ชุดชัตเตอร์จะเป็นประตูเปิด-ปิดเพื่อกั้นแสงที่จะเดินทางต่อไปยังเซนเซอร์รับภาพที่อยู่ด้านหลังต่อไป
ประตูควบคุมนี้เรียกว่า “ชุดชัตเตอร์” หรือ ม่านชัตเตอร์ มีลักษณะเป็นกลีบม่าน (Diaphragm) ที่สามารถยกตัวขึ้นลงได้ จะเปิดและปิดด้วยความเร็วตามที่ผู้ถ่ายภาพหรือระบบอัตโนมัติของกล้องควบคุม เอาไว้โดยมีหน่วยวัดเป็นวินาทีและนาที ยิ่งเปิดปิดเร็วมากแสงก็จะยิ่งเข้าได้น้อย ยิ่งเปิดปิดช้ามากแสงก็จะยิ่งเข้าได้มาก
ลักษณะของภาพจากหน้าที่ของ ชุดชัตเตอร์ก็คือ ยิ่งเปิดปิดเร็ว ก็จะยิ่งหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้ได้นิ่งสนิทมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน ยิ่งเปิดปิดช้าก็จะยิ่งทำให้เกิดลักษณะการเคลื่อนไหวของวัตถุในภาพมากยิ่ง ขึ้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากสิ่งที่กำลังจะถ่ายภาพเป็นสำคัญว่าควรจะใช้สปีด ชัตเตอร์เร็วหรือช้า
ตัวอย่างเช่น เมื่อถ่ายภาพกีฬาที่ต้องการหยุดนักกีฬาเอาไว้ให้นิ่งสนิทในภาพก็ต้องใช้สปีด ชัตเตอร์ที่มีความเร็วสูง เพราะนักกีฬามีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว หรือการถ่ายภาพรถยนต์ที่กำลังวิ่งให้นิ่งสนิทก็ต้องใช้สปีดชัตเตอร์ความเร็ว สูง เพราะรถยนต์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว หากใช้สปีดชัตเตอร์ช้าก็จะไม่สามารถหยุดรถยนต์ในภาพถ่ายให้นิ่งสนิทได้
ภาพอีกลักษณะหนึ่งที่ใช้สปีดชัตเตอร์ช้าก็คือ ภาพที่ต้องการถ่ายทอดถึงลักษณะการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่นภาพถ่ายน้ำตกที่ต้องการให้สายน้ำวิ่งเป็นเส้นสายลงมาตามตัว น้ำตกที่ดูแล้วสวยงามกว่าภาพปกติ ก็ต้องใช้สปีดชัตเตอร์ช้าเพื่อบันทึกลักษณะการเคลื่อนไหวของสายน้ำให้ต่อ เนื่อง เพราะหากใช้สปีดชัตเตอร์ความเร็วสูงก็จะเห็นภาพน้ำเป็นหยดนิ่งสนิท ภาพน้ำตกนั้นก็จะดูแข็งๆ ไม่มีลักษณะการเคลื่อนที่ของสายน้ำแต่อย่างใด
จากลักษณะของภาพถ่ายโดยคุณสมบัติของสปีดชัตเตอร์และปริมาณของแสง นักถ่ายภาพจำเป็นต้องพิจารณาเหตุผลให้ดีด้วย เช่นเมื่อจะถ่ายภาพน้ำตกโดยที่ต้องใช้สปีดชัตเตอร์ช้า นั่นย่อมหมายความว่าจะเปิดโอกาสให้แสงเข้าสู่เซนเซอร์รับภาพมากยิ่งขึ้น จึงต้องหาทางลดปริมาณแสงลงโดยปัจจัยหรือวิธีการอื่นๆ เพื่อลดแสงให้น้อยลง เช่นใช้รูรับแสงที่แคบลง ใช้ฟฟิลเตอร์ลดแสง ฯลฯ เป็นต้น เพราะถ้าไม่ลดแสงลงก็อาจจะได้ภาพน้ำตกที่นุ่มนวลแต่สว่างจ้าไปหมดเพราะมีปริมาณแสงในภาพมากเกินไป
หรือเมื่อต้องถ่ายภาพที่ต้องใช้สปีดชัตเตอร์สูง ก็หมายความว่าแสงจะเข้าสู่เซนเซอร์รับภาพได้น้อยลงเพราะชัตเตอร์ต้องเปิดและปิดอย่างรวดเร็วมาก จึงต้องหาทางชดเชยปริมาณแสงที่จะเข้าสู่กล้องได้น้อยโดยการเพิ่มขนาดรูรับแสงให้กว้างขึ้น หรือเพิ่มค่า ISO ให้มากขึ้น ฯลฯ นั่นเอง มิฉะนั้นแล้วภาพก็จะมืดเพราะเกิดอาการแสงไม่พอ
ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งของสปีดชัตเตอร์ที่ต้องพิจารณาก็คือ หากใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำเกินไปในการถ่ายภาพปกติ ก็อาจจะเกิดอาการภาพเบลอจากการสั่นไหวเนื่องมาจากการที่เราถือกล้องไม่นิ่งมากพอ เมื่อสปีดชัตเตอร์ช้าเกินไปก็จะทำให้ภาพเกิดอาการดังกล่าวได้เช่นกัน
หน่วยวัดความเร็วของสปีดชัตเตอร์โดยตัวอย่างก็คือ 30 วินาที, 1/10 วินาที, 1/125 วินาที 1/500 วินาที ฯลฯ และในกรณีที่สปีดชัตเตอร์มีความเร็วต่ำมากกว่าที่จะถือกล้องด้วยมือ เราก็ควรใช้ขาตั้งกล้องหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนกล้องในขณะที่ถ่ายภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดจากอาการสั่นไหวของมือที่ถือกล้องถ่ายภาพ