มันคือที่สุดของกล้องคอมแพค เพราะอัดแน่นไปด้วยความเป็นที่สุดชนิดที่ยากจะคาดเดากันได้ …โม้หรือเปล่า? งั้นต้องลองเข้ามาดูกันเอาเอง จับกระเป๋าสตางค์และเครดิตการ์ดของคุณเอาไว้แน่นๆ ก็แล้วกัน!
ผมเป็นประเภทที่มีแนวคิดเกี่ยวกับ “ปืนสั้น” และ “ปืนยาว” มาตลอดครับ หรือพูดอีกอย่างก็คือประเภทที่ต้องมีแผนสำรอง เหมือนกับที่บรรดาทหารเค้าพกอาวุธยามเข้าสู่เขตสงครามนั่นแหละครับ เมื่อปืนยาวหรือปืนกลมืออานุภาพร้ายแรงหมดฤทธิ์ลงไปแล้วก็ยังมีปืนสั้นสำรองเอาไว้ แม้อานุภาพมันอาจจะไม่ร้ายแรงเท่าแต่ก็ยังสามารถใช้เพื่อเอาตัวรอดได้ อย่างน้อยก็ยังมีไว้ยิงอาหารหรือยิงส่งสัญญาณเรียกกัน ไม่ถึงกับมือเปล่าเสียทีเดียว
แหม่…ฟังดูน่าตื่นเต้นชะมัด แต่กับการถ่ายภาพเนี่ยมันจำเป็นต้องขนาดนั้นเลยหรือ? อาจจะไม่จำเป็นสำหรับกรณีทั่วไปครับ แต่ถ้าในกรณีของมืออาชีพแล้วละก็ขอบอกเลยว่าคุณจำเป็นต้องมี หากกล้องหลักของคุณเดี้ยงไปแล้วก็ยังมีกล้องสำรองใช้ทำมาหากินต่อได้เลย ไม่ใช่นั่งหน้าละห้อยคอตกเสียใจในชะตาชีวิต หรือในบางคราวที่ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องหลักให้เปลืองก็ใช้กล้องสำรองนี่แหละ ว่ากันไปตามสถานการณ์
ดังนั้นผมจึงมองหา “กล้องสำรอง” เหมาะๆ มาประจำการอยู่ตลอดเวลา (เลยมีกล้องเยอะแยะเต็มไปหมดเลยทีนี้) แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีกล้องเหมาะๆ ที่ว่านั้นมาเข้ามือสักที
กล้องสำรองเหมาะๆ ที่ว่านั้นผมหมายถึงกล้องที่มีขนาดเล็กตัวเดียวจบ พกพาง่าย ไม่ต้องเตรียมการเยอะ ช่วงเวลาเร่งด่วนสามารถออกปฏิบัติการได้ทันทีโดยไม่ต้องเตรียมอะไรให้ยุ่งยากวุ่นวายเสียเวลา
แต่ที่สำคัญที่สุด คุณภาพของไฟล์ภาพต้องดีเข้าขั้นด้วย อุตส่าห์ถ่ายได้แต่นำไปใช้งานไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์
วันดีคืนดีอย่างคาดไม่ถึง ก็มีกล้องคอมแพคเทพตัวหนึ่งหลุดเข้ามาอยู่ในมืออย่างไม่คาดฝัน เจ้าตัวนี้มันชื่อ “RX100 mark IV” ซึ่งเป็นของค่าย Sony ที่ไม่เพียงแค่หน้าตาดีเท่านั้น แต่คุณภาพของมันยังดีอย่างเหลือเชื่ออีกต่างหาก และแทบจะทุกด้านด้วยซ้ำไปเลยทีเดียว
• ปืนสั้นอานุภาพร้ายแรง
อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ ถึงจะเป็นอาวุธสำรองแต่มันก็ต้องมีดีในด้านคุณภาพพอสมควร ทันทีที่คุณได้เห็นส่วนประกอบภาพนอกของกล้องตัวนี้ก็พอจะบอกได้ว่ามันไม่ธรรมดาแน่ๆ
เริ่มที่ชุดเลนส์ก่อนก็แล้วกัน…มันใช้เลนส์ซูมของ Carl Zeiss เกรด Vario-Sonnar ในระยะเทียบเท่า 24-70mm ของกล้อง Full Frame ซึ่งเท่านั้นยังไม่พอ รูรับแสงกว้างสุดของเลนส์ชุดนี้ยังอยู่ที่ F/1.8 อีกต่างหาก จะละลายหลังหรือใช้ในสภาพแสงน้อยก็ว่ากันไป ได้ทั้งนั้น ถึงจะที่ระยะ 70mm ก็ยังเป็น F/2.8 อยู่ดี แถมยังเคลือบผิวแบบ T* อันลือลั่นเข้าไปอีก นอกจากนี้ที่ขอบเลนส์ยังเป็นวงแหวนปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ด้วย
ที่น่าทึ่งเป็นพิเศษก็คือ Sony ออกแบบให้กล้องตัวนี้สามารถมีแฟลช Built-in แบบเก็บได้ในตัวและช่องมองภาพแบบ XGA OLED (Tru Finder) ความละเอียดสูงอยู่ในกล้องเล็กๆ นี้ได้ด้วย คุณอาจจะไม่เห็นความสำคัญว่าไอ้เจ้าช่องมองภาพเล็กๆ นี่จะมีให้กล้องคอมแพคทำไมในเมื่อใช้จอ LCD ด้านหลังก็ได้? สำหรับการใช้งานทั่วไปก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ แต่เมื่อคุณควรต้องถ่ายภาพได้ดีในทุกสภาวะโอกาส ช่องมองภาพ (View Finder) นี่แหละจะช่วยให้คุณเล็งภาพในสภาวะกลางแจ้งที่มีแสงจ้าๆ ได้ดีกว่ากันเยอะ ข้อเสียของมันก็คือตื้นไปนิด ชนขนตาง่ายไปหน่อย บางทีก็รำคาญอยู่เหมือนกัน
ซึ่งเอาจริงๆ นะ ผมก็ชอบใช้มันด้วยเหตุผลดังว่านั่นแหละครับ เสียอยู่อย่างตรงที่ความละเอียดของมันสูงมากจึงทำให้ใช้พลังงานมากกว่าการใช้จอ LCD ซะอีก
เค้าออกแบบส่วนนี้มาได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว นี่ถ้าใส่ Hot Shoe มาได้อีกอย่างนะ กราบบบบบบ
ปุ่มปรับตั้งอะไรทั้งหลายแหล่นั้นก็ดูดีมีชาติตระกูลครับ มันอาจจะเล็กไปสักหน่อยสำหรับผู้ที่มีนิ้วใหญ่มาก แต่สำหรับผมแล้วก้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก แต่รับรองเลยว่ากล้องรุ่นนี้ดึงออกมาใช้ที่ไหนก็ไม่มีน้อยหน้าอยู่แล้ว
จอด้านหลังเป็น LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดนับล้านพิกเซล คมใสสบายตา และบางทีมันก็อาจจะดีเกินไปหน่อยๆ ด้วยซ้ำ ปรับได้ 180 องศา ถ่ายเซลฟี่หรือมุมต่ำมุมสูงได้สบายโดยไม่ต้องทำให้ชีวิตลำบากลำบนมากนัก สร้างสรรค์มุมภาพแปลกๆ ได้เพียบ ผมนี่ชอบจริงๆ เลย
แต่เหนืออื่นใดอยู่ที่ภายในของมันครับ หัวใจใหญ่อย่างเซนเซอร์รับภาพนั่นแหละ เจ้ากล้องรุ่นนี้มันสามารถทำอะไรได้หลายประเภทได้อย่างไม่น่าเชื่อและไม่เคยมีมาก่อนในรุ่นก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่นการถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วมากๆ สูงสุดถึง 16 ภาพต่อวินาที, สปีดชัตเตอร์เร็วสุดถึง 1/32000 sec.! , บันทึกวีดีโอแบบสโลว์โมชั่นที่ระดับสูงสุด “หนึ่งพันเฟรมต่อวินาที” ด้วยขนาดใกล้เคียงกับ Full HD ฯลฯ และอะไรอีกหลายสิ่ง เพราะเซนเซอร์รับภาพของมันนั้นเป็นรุ่นล่าสุดและมีใช้เป็นครั้งแรกของโลก นั่นก็คือ “Exmor® RS CMOS” ที่มีหน่วยความจำแบบ DRAM ติดตั้งในตัวเพื่อใช้เป็น Buffer ก่อนส่งไปประมวลผลได้ ดังนั้นมันถึงได้เร็วมากๆ จนน่าตกใจ
แต่คุณต้องใช้ SD Card แบบที่เร็วๆ หน่อยนะครับถึงจะใช้คุณสมบัติพวกความเร็วสูงทั้งหลายแหล่เหล่านี้ได้
ความละเอียดน่ะหรือ? 20.1 MP ครับ ใช้ผลิตงานสิ่งพิมพ์ได้สบายๆ เลยล่ะ
มี ND Filter แบบ Built-in มาให้ด้วย ลดแสงได้สองสตอป สั่งใช้งานจากเมนูคำสั่ง เผื่อถ่ายภาพกลางแสงจ้ามากๆ ก็ยังพอช่วยได้
งานประกอบภายนอกดูดีครับ วัสดุดี ไม่ก๋องแก๋ง สามารถแนะนำให้ใครๆ ไปซื้อได้เลย รับรองไม่มีอาย
• ใช้งานจริง
ต้องสารภาพกันก่อนเลยครับว่าผมเองก็ยังใช้คุณสมบัติที่มีของเจ้านี่ยังไม่หมดเลย และอีกทั้งก็ถ่ายภาพนิ่งเป็นหลักเลยยังไม่ค่อยได้เห็นอานุภาพของวีดีโอระดับ 4K และสโลว์โมชั่นแบบพันเฟรมต่อวินาทีสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังพอมีมาให้คุณๆ ได้ชมเป็นตัวอย่างกันสักเล็กน้อย
…อะไรนะ? 4K? ใช่แล้วครับ เจ้าหมอนี่บันทึกวีดีโอระดับ 4K ได้ด้วย เอากะมันสิ!
ดังนั้นผมจึงเน้นที่ภาพนิ่งเป็นหลัก และนี่ก็ไม่ใช่การนำมาทดสอบระยะสั้น แต่เป็นกล้องที่อยู่ในความครอบครองของผมเลย ผมจึงใช้มันมานานพอสมควร ดังนั้นอย่าได้แปลกใจครับที่ภาพถ่ายของ RX100 mark IV ที่คุณเห็นนี้จะมีริ้วรอยและฝุ่นผง เพราะนี่คือกล้องตัวจริงเสียงที่ผมใช้งานอยู่เป็นปกติทุกวัน ไม่ใช่กล้องที่แกะกล่องใหม่แต่อย่างใด
ใช่ละครับ มันเป็นกล้องคอมแพคซึ่งไม่น่าจะเทียบกับกล้อง DSLR ระดับ Full Frame ได้ แต่ถ้าต่ำกว่านั้นละก็มันสามารถทำให้กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ทั้งหลายลำบากใจได้เลยทีเดียว เพราะคุณภาพไฟล์ 20.1MP ที่ได้จากเจ้าตัวนี้ต้องเรียกว่าไม่ธรรมดา ขอบอกว่าหลายไฟล์ที่ผมถ่ายด้วยกล้องตัวนี้ผ่านสายตาผู้ตรวจรับภาพ Micro Stock ไปแล้วด้วยอีกต่างหาก ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าพวกนี้น่ะเขี้ยวลากดินขนาดไหน
…คุณภาพไฟล์แจ่มมากครับ ขอบอก!
บางครั้งบางโอกาสผมจึงไม่ต้องใช้ DSLR ด้วยซ้ำ บางทีอยากไปเดินเล่นสบายๆ หรือเป็นงานที่ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมายนักก็พกเจ้านี่ไปตัวเดียวจบ! คว้ากล้องออกจากบ้านได้เลย แค่ไม่ลืมชาร์จแบตเท่านั้นแหละ
อะไรนะ…ลืมชาร์จแบตอยู่ดี ขอบอกครับว่าเราสามารถใช้พวก Power Bank ชาร์จกล้องตัวนี้ได้ด้วย! หรือใช้ที่ชาร์จในรถนั่นก็ได้อีกเหมือนกัน บ๊ะ! จะเอาใจกันไปถึงไหน นี่แหละครับมันถึงได้สะดวกสบายและโดนใจผมมากๆ
หลายครั้งหลายโอกาสเราก็ไม่ต้องการกล้องตัวใหญ่ให้มันเอิกเกริกมากมายจนไก่ตื่นใช่ไหมล่ะครับ? ก็แค่เจ้านี่เท่านั้น เอาอยู่!
โหมดปรับตั้งเพื่อถ่ายภาพนั้นมีมาในแบบ Auto, P, A, S, M อันเป็นปกติในกล้อง DSLR นั่นแหละ นอกนั้นก็เป็นพวกบันทึกวีดีโอความเร็วสูง, วีดีโอปกติ, พานอรามา ฯลฯ อะไรเทือกนั้น แต่พวกโหมดดอกไม้ ภูเขา คนวิ่ง ที่เห็นในกล้องคอมแพคทั่วไปนั้นไม่มี เพราะนัยว่านี่เป็นกล้องที่วางคาแรคเตอร์มาให้เป็นกล้องสำหรับผู้ที่โอเคกับทางด้านการถ่ายภาพในระดับนึงแล้ว
ถามว่างั้นมือใหม่ใช้งานได้ไหมล่ะ? ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ โหมด Auto หรือโหมด P นั่นไงล่ะ ผมเองยังใช้ออกจะบ่อยไป ที่สำคัญคือได้ภาพออกมาดีเสียด้วย
เอิ่ม…ถ่ายมาโครได้อีกต่างหากนะฮะท่านผู้ชม อาจจะไม่ถึงระดับ 1:1 เหมือนมาโครแท้ แต่ด้วยคุณภาพของไฟล์แจ๋วๆ ของมันนี่ถ่ายแล้วมาครอปก็มีกระอักได้อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ครอปก็น่าจะอยู่แถวๆ สัก 1:3 นี่ล่ะครับ (ที่ระยะ 24mm)
ด้วยรูรับแสงกว้างสุดที่สว่างมากถึง F/1.8 ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพบุคคลแบบที่เค้าฮิตๆ กันอย่าง “ละลายฉากหลัง” นี่ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ และมันก็ยังใช้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีมากๆ อีกด้วย
Wi-Fi น่ะเหรอ? มีสิครับ ถ่ายเสร็จปุ๊บโยนเข้าคอมเข้าโทรศัพท์ปั๊บโพสต์ได้เลย หรือจะสั่งถ่ายภาพระยะไกลด้วยระบบนี้ก็ยังได้อีก
การจับถือก็โอเคอยู่นะครับ เป็นรูปทรงตามธรรมดาของกล้องคอมแพคนั่นแหละ แต่รู้สึกมั่นใจดีชอบกล
…ผ่านมากมายครับกล้องตัวนี้
• ข้อดี
- คุณภาพไฟล์ดีมาก คมชัดสดใส การไล่ระดับสีดีมาก
- เลนส์ไวแสงถึง F/1.8 ที่ 24mm และ F/2.8 ที่ 70mm ละลายหลังได้ ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี
- ช่องมองภาพ Tru Finder สารพัดประโยชน์จริงๆ
- ชาร์จด้วย Power Bank ได้
- บันทึกวีดีโอ 4K และ Super Slow-motion 1000/sec.
- ติดตั้ง App เพิ่มได้หลากหลายรูปแบบ
• ข้อเสีย
- เมนูปรับตั้งต่างๆ ยังต้องกดหลายครั้งหลายขั้นไปหน่อย (ตามสไตล์ Sony) ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยพอสมควร
- ผมอยากได้ช่วงเทเลโฟโต้ที่ไกลกว่านี้อีกสักหน่อยครับ จะช่วยให้มันยิ่งอเนกประสงค์ขึ้นอีกเยอะเลย
- ถ้ามี Hot-shoe ให้เสียบแฟลชมาได้อีกสักอย่างละก็…(นี่มันกล้องคอมแพคนะ!)
• สรุป
ผมหาข้อเสียของกล้องรุ่นนี้มาแสดงให้คุณดูได้ไม่มาก เพราะต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้เข้าข้างแต่เป็นเพราะข้อเสียของมันมีน้อยจริงๆ (ตั้งแต่ใช้มายังไม่มีงอแงสักครั้งเลย) นี่ถ้าเค้าเพิ่มเรื่องคุณสมบัติการลุยอย่างแค่กันละอองน้ำมาให้ด้วยละก็จะขอปิดทองให้เลย เพราะมันดีอย่างนี้แหละครับบางครั้งผมก็ใช้มันเป็นอาวุธหลัก แถมบางครั้งก็เป็นเพียงอาวุธเดียวเสียด้วยซ้ำไป …เชื่อใจกันขนาดนั้น
หลายท่านมองว่าราคามันแพงจัง (ขณะที่ทำรีวิวนี้อยู่ที่ 32,990 บาท) น่าจะเป็นข้อเสียอีกข้อได้นะ …แต่ผมมองว่าถ้าเทียบกับคุณสมบัติแล้วมันไม่แพงหรอกครับ …มันเป็นกล้องที่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมั๊ย? ก็อยู่ที่วิธีและวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งานของคุณแล้วล่ะ แต่สำหรับผมนี่บอกได้เลยว่าคุ้มที่สุด เพราะนอกจากเรื่องคุณภาพและคุณสมบัติที่มันมี (แต่ผมยังใช้ไม่หมด) ก็ยังเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ ที่ไม่ว่าจะงัดขึ้นมาใช้ในงานไหนเป็นไม่มีอายใครแน่
ผมสรุปว่า “RX100 IV” เป็นกล้องคอมแพคที่ดีมากๆ ครับ คุณสมบัติครบถ้วนแถมยังมากเกินต้องการเสียด้วยซ้ำไป แต่ก็นั่นล่ะ เหลือดีกว่าขาด ไม่ได้ใช้ก็ช่างมันปะไรล่ะ เดี๋ยววันไหนจะใช้ขึ้นมามันก็มีพร้อมให้ใช้อยู่แล้ว
…ถ้างบประมาณไม่ใช่ปัญหาของคุณละก็ นี่คือ “โคตรกล้องคอมแพค” ที่ควรค่าแก่ซื้อหามาใช้งานครับ พูดเลย.
ปิยะฉัตร แกหลง (Nextopia)
กุมภาพันธ์ 2559
เผื่อต้องการรายละเอียดของ RX100 mark IV เพิ่มเติมครับ > http://www.sony.co.th/th/electronics/cyber-shot-compact-cameras/dsc-rx100m4/specifications
