ดูตัวว่าที่ผู้พิฆาตเลนส์มุมกว้างสำหรับกล้อง Full Frame ที่บางคนตั้งตารอ แต่นี่ยังไม่ใช่การรีวิว…แค่แวะมาดูตัวดูใจกันก่อน!?
ช่วงมุมกว้างพิเศษสำหรับกล้อง Full Frame เป็นช่องว่างของ Tamron มาช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ในที่สุดก็ถูกถมลงด้วยระยะพิฆาตระดับ 15mm พร้อมเลขสวยๆ อย่าง F/2.8 ซึ่งนั่นหมายความว่ามันคือเลนส์เกรดโปรจากค่ายอิสระรายนี้ซึ่งนับว่าเป็นเจ้าแห่งเลนส์ซูม เพราะนานๆ ครั้งจึงจะได้เห็นเลนส์ฟิกซ์ระยะเดี่ยวจากค่ายนี้เสียที
ถึงแม้จะไม่แน่ใจนักว่านี่คือตัวเดียวชิ้นเดียวกับที่โชว์อยู่ใน Photokina 2014 ที่ผ่านมาหรือเปล่า? แต่ที่รู้ๆ ก็คือมันยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยสำหรับเรื่องราวภายใน แต่ถ้าสำหรับทรวดทรงองค์เอวภายนอกแล้วละก็ มันจะเป็นแบบนี้เปี๊ยบ ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่ตัวที่จะวางขาย และยังไม่ใช่ตัวที่สามารถรับมือกับการทดสอบแบบจริงจัง ดังนั้นผมจึงแวะเข้ามาดูตัวกันเอาไว้ก่อน ต้นปีหน้านั่นแหละตัวขายถึงจะเริ่มปรากฏให้เห็น
…ดังนั้นจึงยังไม่มีรายงานผลการทดสอบ มีเพียงรายงานรูปร่างภายนอกให้เชยชมกันก่อนเท่านั้น
ต้องบอกตรงๆ ว่าตกใจกับขนาดลำตัวของมันเสียเหลือเกิน ที่เคยเห็นจากในภาพนั้นนับว่ามันเร้าใจมาก ตัวโครงสร้างออกแบบได้สวยงามเหมาะเจาะ แต่สำหรับตัวจริงเสียงจริงแล้วต้องบอกเอาไว้เลยว่าใหญ่อวบอ้วนอยู่ไม่น้อย แต่นี่คือความเห็นสำหรับฝ่ามือที่ไม่ใหญ่นักอย่างผมนะ
เมื่อประกอบเข้ากับกล้อง EOS 6D แล้วทำให้ตัวกล้องดูเล็กลงไปถนัดตา แต่ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่าเลนส์ตัวนี้มาพร้อมรูรับแสงกว้างสุดที่ F/2.8 แถมยังมีระบบกันสั่น “VC” (Vibration Compensation) ติดมาด้วยอีกต่างหาก
เลนส์มุมกว้างจะต้องมีกันสั่นไปทำไมกัน? คุณอาจจะถามอย่างนี้ ในการใช้งานโดยทั่วไปแล้วเราอาจจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญของมันเท่าไหร่ แต่เมื่อยามเข้าใต้เข้าไฟแสงสลัวๆ หันซ้ายหันขวาก็ไม่มีขาตั้งกล้อง มันก็อาจจะยังช่วยคุณได้อยู่บ้างเหมือนกัน …และที่สำคัญก็คือ หากคุณถ่ายวีดีโอแบบใช้มือเปล่า มันก็ดูจะตรงประเด็นมากที่สุด บรรดามืออาชีพทางด้าน HDSLR ตามงานอีเว้นท์ทั้งหลายคงจะสนใจ
ฟังดูน่ากลัวว่าอะไรจะใหญ่ซะขนาดนั้น…อันที่จริงแล้วถ้าดูเดี่ยวๆ ละก็มันจะน่าเกรงขามมากทีเดียวครับ ในครั้งแรกที่เห็นภาพผมก็ประมาณเอาไว้ว่ามันน่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับรุ่นพี่อย่าง 24-70mm F/2.8 (A007) ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อนำมาวางใกล้ๆ กันแล้วก็ดูเหมือนขนาดจะไม่หนีกันอยู่กี่มากน้อย เรื่องนี้นานาจิตตังครับ รูรับแสงก็กว้าง ระยะกว้างสุด 15mm และเลนส์ชิ้นหน้าทรงโค้งอาจจะทำให้เลนส์ดูโอ่โถงอลังการมาก ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่ชอบ แต่สำหรับบางคนแล้วมันน่าดูน่าพิสมัยมากเลยทีเดียว
เลนส์ชิ้นหน้าทรงโดมโค้ง ดังนั้นอย่าได้ฝันถึงฟิลเตอร์วงกลมแบบปกติ หากจะใช้งานจริงก็ต้องหาวิธีประยุกต์ฟิลเตอร์แบบแผ่น หรือไม่แน่ในอนาคตก็อาจจะมีฟิลเตอร์เฉพาะทางตามออกมาในตลาด เรื่องนี้ชาวนิคอนที่ครอบครอง 14-24mm อยู่คงจะเข้าใจดี เพราะหน้าตาส่วนหน้ามันคล้ายๆ กัน แต่ของตัวนี้ฮูดจะเป็นแบบติดตายตัวมาเลย คุณไม่สามารถถอดมันออกได้ มองในแง่ดีก็คือมันจะช่วยป้องกันหน้าเลนส์ได้ อีกทั้งเลนส์ชิ้นหน้าก็ทำการเคลือบผิวมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ลงไปได้อีก
ก็เนื่องจากมันเป็นเลนส์ซูมครับ หน้าเลนส์ของมันจึงขยับเข้าออกตามระยะซูม แต่สิ่งที่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจในเหตุผลนักก็คือ ทำไมถึงมีฮูดถึงสองชั้น? คุณจะเห็นชัดเจนในภาพเมื่อซูมไปที่ระยะ 30mm เห็นใช่ไหมล่ะครับว่ามันมีฮูดซ้อนกันอยู่? เอาไว้รู้เหตุผลเมื่อไหร่จะเอามาบอกกันในโอกาสถัดไป
ผมเข้าใจครับว่าสิ่งที่คุณอยากรู้มากที่สุดก็คือคุณภาพของแสงที่ได้จากเลนส์ตัวนี้ … Distortion มากมั๊ย? สีเหลื่อมรึเปล่า? มันจะกว้างแค่ไหน? ฯลฯ แน่ละครับว่าผมไปถึงขนาดนั้นแล้วก็ต้องเสียบฉึกเข้ากับกล้องแล้วลองถ่ายดูบ้างล่ะ แต่ก็อย่างที่บอกครับว่าเลนส์ตัวนี้ยังเป็น Pre-Production ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ 100% ซึ่งตัวที่วางขายจริงจะเป็นแบบตัวนี้หรือเปล่าก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ ดังนั้นถ้าผมจะบอกว่า แหม…มันก็ดีหรอกนะ แต่ผมไม่ชอบประกายแฉกที่ได้จากเลนส์ตัวนี้เลย อันนี้มันก็คงไม่ค่อยแฟร์กับมันสักเท่าไหร่ ในขณะที่ถ้าผมบอกว่า โอ้โห ยิงสวนแสงเข้าไปจังๆ แล้วไม่เจอแฟลร์เจอโกสท์ซักกะเม็ด อันนี้มันก็ไม่แฟร์กับคุณผู้อ่านสักเท่าไหร่อีกแหละ เพราะมันคือ Pre-Production ยังไม่ใช่ตัวจริง ดังนั้นดูแค่ภายนอกไปก่อนก็แล้วกัน
ไว้ตัวจำหน่ายจริงมาเมื่อไหร่ผมจับมาขึ้นเขียงนำเสนอต่อคุณๆ แน่นอน…ข้อนี้รับรองเลย
ส่วนท้ายเลนส์ก็ตามสไตล์เกรดโปรครับ นอกจากช่องแสงกว้างๆ แล้ว คุณจะเห็นวงแหวนยางที่สุดขอบโลหะ ซึ่งอันนี้มีไว้ช่วยป้องกันส่วนรอยต่อไม่ให้ความชื้นหรือฝุ่นละอองแอบเล็ดลอดเร้นกายเข้าไปสถิตย์ในกล้อง งานประกอบดูเรียบร้อยดี วัสดุต่างๆ ก็สมกับเป็นเลนส์เกรดโปรและสมกับวงแหวน “Tungstain Silver” ที่มากับเลนส์ Tamron ยุคใหม่หัวก้าวหน้าทุกตัว รับรองว่าความหล่อไม่เป็นรองใคร
อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าทั้งคุณภาพและความคมชัดของภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้ก็คงไม่น่าผิดหวัง ที่เหลือก็เป็นพวกบุคลิกส่วนอื่นๆ ของเลนส์ที่ต้องรอการทดสอบให้เห็นดำเห็นแดงในภาคสนามกันอีกทีว่ามันจะออกมาเป็นยังไง น่าคบหาหรือไม่ เพราะเท่าที่สังเกตจากเลนส์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับ Tungstain Silver แล้วแต่ละตัวแทบจะติไม่ลงกันเลยทีเดียว ซึ่งเจ้า 15-30mm รหัส A012 ตัวนี้ก็ไม่น่าจะแหกคอกออกไปจากมาตรฐานของยุคใหม่หัวก้าวหน้านี้หรอก
…และที่สำคัญสุดๆ “ราคา” ยังคงเป็นปริศนาและน่าจะเป็นตัวตัดสินว่ามวยรุ่นนี้จะมันหยดติ๋งสักแค่ไหน แต่เดาใจแล้วก็น่าจะทำให้คุณหนักใจอยู่ไม่น้อย…ระหว่าง F/4 และ F/2.8 เราจะไปทางไหนดี แหม่ ตัดสินใจยากชะมัดเพราะมันคงจะหายใจรดต้นคอกันฟืดฟาดชนิดได้ยินเสียงชัดเจน
ต้นปีหน้าปลายปีนี้คงจะได้รู้กัน!
ปิยะฉัตร แกหลง
19 พย. 2557
