Canon EOS 6D • EF 17-40mm F/4L USM • @17mm • F/9.5 • 1/350 sec • ISO 200 • 7:51 AM
ภาพนี้เป็นภาพที่ใช้ทำเป็นปกของ XT ฉบับที่ 21 ครับ ถ้าจะว่าไปแล้วภาพนี้ยังไม่ใช่ภาพที่สมบูรณ์นักถ้าจะหมายความถึงภาพที่จบในตัวเอง เพราะจุดอ่อนที่สำคัญสำหรับภาพนี้คืออะไร?
… ลองคิดและวิเคราะห์ดูก่อนครับ
ภาพนี้ปล่อยพื้นที่โล่งทางมุมบนขวาเอาไว้ค่อนข้างมากจนมันขาดน้ำหนัก ในกรณีแบบนี้ถ้าหากตรงพื้นที่ที่ว่ามีพวกก้อนเมฆลอยอยู่ก็จะช่วยถ่วงน้ำหนักภาพให้สมบูรณ์ขึ้นได้ หรือถ้าไม่สามารถเสกเมฆมาจากไหนได้แล้วละก็ “ใบไม้หรือกิ่งไม้” คือลูกเล่นสำคัญที่ช่างภาพต้องใช้กันเพื่อเติมน้ำหนักให้กับพื้นที่โล่งอย่างท้องฟ้า ซึ่งเราจะเห็นภาพถ่ายที่มีการใช้เทคนิคนี้กันอยู่บ่อยๆ เราก็เพียงแค่ไปยืนอยู่ใต้ต้นไม้สักต้นนึงแถวๆ นั้นแล้วปล่อยให้มีส่วนปลายใบปรากฏเข้ามาในกรอบภาพของเรา คนดูภาพก็จะรู้สึกเหมือนอยู่ใต้ร่มไม้ไปด้วย ซึ่งมีภาพมุมเดียวกันนี้ในแบบที่ว่านี้อยู่ใน XT ฉบับ 21 ด้วยเหมือนกัน ลองหากันดู
แต่ก็อย่างที่บอกครับว่าภาพนี้คือสิ่งที่จะนำมาทำเป็นปก ซึ่งผมวางแผนการล่วงหน้าเอาไว้แล้วว่า Lay-out ของปกจะวางโลโก้เอาไว้ตรงไหน ชื่อหนังสืออยู่ตรงไหน ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ซึ่งนั่นก็คือแผนทางมุมภาพที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ต้น และแผนที่ว่านั้นก็ประสบความสำเร็จเมื่อมาเจอมุมนี้เข้า อันที่จริงก็ไม่ใช่มุมมหัศจรรย์พิสดารอะไรมากมาย เพียงแต่สามารถบอกความเป็นวัดผาซ่อนแก้วและตอบโจทย์ในชุดความคิดรอบนี้ของผมได้พอดี
…ดังนั้นมันจึงเป็นมุมในแผนของผมเลยทีเดียว
ในวันแรกที่ไปถึงก็เป็นเวลาบ่ายคล้อยไปแล้ว ซึ่งแสงในตอนนั้นไม่ค่อยน่าประทับใจนัก ดูจากเส้นทางโคจรของพระอาทิตย์แล้วพรุ่งนี้เช้าคงจะเข้าทีมากกว่า
เช้าวันถัดมาผมก็ไปรออยู่ที่จุดเดิม นักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก ผมต้องการให้มีผู้คนอยู่ในภาพนี้ด้วยก็เลยต้องเป็นเรื่องของการรอจังหวะ และแล้วจังหวะนั้นก็มาถึงแบบดีเกินคาด นักท่องเที่ยวสองท่านนั้นเดินลงจากบันไดแล้วก็ตรงมายังทางออกด้านที่ผมอยู่ อันที่จริงแล้วการเดินออกจากภาพไม่ใช่ตัวนำสายตาที่ดี เพราะควรจะเป็นการเดินเข้าหามากกว่า
แปลกมากที่สุดครับ อันนี้แหละนะที่เขาเรียกกันว่าดวง น้องท่านที่สะพายกล้องอยู่นั้นคงเห็นผมยืนเล็งกล้องไปทางเจดีย์นิ่งอยู่ก็เลยหันหน้ากลับไปมอง แถมด้วยแสงแดดก็พ้นเงาขึ้นตรงเฉพาะส่วนบนของน้องเค้าพอดี งานนี้เลยเป็นโชคหลายชั้น ทั้งได้สายตานำไปหาตัวแบบและใบหน้าแบบแสงไฮไลท์ จังหวะก้าวขาก็โอเค ซึ่งถ้ากดช้ากว่านี้ไปอีกเสี้ยววินาทีน้องเค้าก็คงจะหันหน้ากลับมาและจังหวะก้าวขาก็คงจะไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ
ที่สำคัญก็คือตอนนั้นนิ้วผมเริ่มแข็งเพราะอากาศหนาวเย็นมาก ยืนอยู่กับที่บนพื้นเย็นๆ โดยที่ไม่ได้ใส่รองเท้าเป็นเวลานานเพื่อรอจังหวะถ่ายภาพ ถ้ายอมให้กับสังขารในจังหวะนั้นก็คงไม่ได้ภาพนี้มาทำเป็นปกให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันแน่เลย
…เป็นอีกหนึ่งในประสบการณ์ที่นำมาแชร์ให้ฟังครับ ช่างภาพนี่เป็นอะไรที่ต้องพกดวงใส่กระเป๋ากล้องมาด้วยจริงๆ
ปิยะฉัตร แกหลง