SAMYANG MF 14mm F/2.8 “RF” กว้างกันให้สาแก่ใจ ไวแสงกันให้กระจ่าง เก็บช้างกันให้เพลิน …เลนส์ดีจังแถมตังค์ยังเหลือ!
ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับผมมากครับในการที่เลนส์ค่ายอิสระสำหรับเม้าท์ RF (EOS R System) นั้นกลับเป็น “SAMYANG” ไม่ใช่เลนส์อิสระจากแผ่นดินอาทิตย์อุทัย
คงเป็นเพราะ SAMYANG ผลิตเลนส์สำหรับกล้อง Mirrorless ออกมาหลายรุ่นแล้ว เพียงแค่การปรับปรุงช่วงท้ายอีกนิดหน่อย เลนส์สำหรับเม้าท์ RF ของกล้อง Canon EOS R และ RP ก็พร้อมจะวางจำหน่ายได้ในเวลาไม่นาน
ในขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ SAMYANG ก็ส่งเลนส์ในร่าง RF Mount ออกมาแล้วสองรุ่น นั่นก็คือ MF 85mm F/1.4 RF และ MF 14mm F/2.8 RF ตัวนี้นี่แหละ
ไม้ตายของค่ายนี้เค้าคืออะไรรู้ไหมล่ะครับ? “ราคา” นี่ไง นำหน้ามาก่อนเลย
จะว่าไปแล้วหากชูเรื่องราคาไม่แพงนำหน้ามาก่อนก็อาจจะพาให้รู้สึกว่าถูกจริงแต่ก๋องแก๋ง มันก็มีส่วนที่จะพาให้คิดเช่นนั้นได้ แต่ผมยังไม่เห็นเลนส์จาก SAMYANG ที่ดูก๋องแก๋งดังว่าสักกะรุ่น ตรงกันข้ามมันกลับทำออกมาได้ดีตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายในเสียด้วยซ้ำ ไม่เชื่อคุณลองไปดูตัวจริงก่อนได้ เดี๋ยวจะหาว่าอวยกันเกินจริง
“เลนส์มุมกว้างพิเศษ” ที่มาพร้อมความไวแสง แน่นอนว่าราคาปีนกระไดแน่นอนเพราะเอื้อมลำบาก แต่ถ้ารักจริงหวังแต่งละก็ยังไงก็ต้องไปหาสินสอดทองหมั้นมาให้พร้อม 0% กี่เดือนก็ว่ามา นั่นจึงทำให้การครอบครองเลนส์มุมกว้างไวแสงจึงเป็นได้เพียงฝันของใครหลายคนเยอะแยะ
…แต่ถ้าจะบอกว่า เจ้าหมอนี่มัน 14mm F/2.8 แค่หมื่นกว่าบาทล่ะ?
• กายภาพภายนอก
เห็นชื่อ “SAMYANG” (ซัมยัง) ทีไรก็มักจะนึกถึงชื่อจากแผ่นดินใหญ่ทุกที แต่นี่คือเลนส์สัญชาติ “เกาหลีใต้” ครับคุณผู้ชม
เมื่อคุณจับปุ๊บจะรู้เลยว่ามันไม่ใช่เลนส์ก๊อกแก๊กแน่นอน งานประกอบแน่นหนาวัสดุดูดีมีชาติตระกูล เรียกได้ว่าใส่กับ EOS R แล้วหล่อเลย
ตัวเลนส์เป็นโลหะครับ ส่วนฮูดทรงกลีบดอกไม้ที่ติดตายตัวนั้นเป็นวัสดุ ABS เลนส์ชิ้นหน้าป่องนูนแปลว่าไม่สามารถใช้ฟิลเตอร์ปกติได้ ฮูดก็เลยกลายเป็นอุปกรณ์ปกป้องหน้าเลนส์ไปด้วยในตัว ก็ดีแล้วที่มันถอดไม่ได้ ส่วนฝาเลนส์ก็เป็นแบบครอบสวมลงไปทั้งฮูดเลย
อย่างที่บอกครับว่ามันเป็นเลนส์ MF ไม่มีส่วนประกอบทางไฟฟ้าหรือมอเตอร์ใดๆ ทั้งสิ้น ลักษณะโครงสร้างของมันจึงไม่ต้องใหญ่โตมาก (อย่าลืมว่านี่คื 14mm F/2.8) มีวงแหวนยางเซาะร่องสำหรับหมุนโฟกัสขนาดพอดีนิ้วมือ หมุนสะดวก แรงฝืดกำลังดี มีตัวเลขกำกับระยะโฟกัสในหน่วยเมตรและฟุตมาให้มองเห็นถนัดตา และแน่นอน สัญลักษณ์ Infinity ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักล่าช้างล่าดาวทั้งหลายก็มีมาด้วยเช่นกัน
วงแหวนปรับรูรับแสงแบบ “คลิกเบลด” รับรู้ได้เวลาที่ปรับรูรับแสงไปแต่ละสตอป ให้ฟิลลิ่งการใช้งานที่โอเคมากเชียวครับ แต่ถ้าวงแหวนปรับรูรับแสงจะมีพื้นที่เยอะกว่านี้ได้อีกสักหน่อยก็จะยิ่งดีเลยเชียว
เม้าท์เลนส์เป็นวัสดุโลหะแข็งแรงสวยงาม ไม่มีขั้วสัญญาณไฟฟ้าอะไรทั้งสิ้นเพราะมันไม่ได้ใช้ และยังมียางซีลท้ายเลนส์เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าไปสู่ภายในกล้องให้ด้วย ลุยได้ประมาณนึง เค้าบอกว่าฝนเบาๆ หรือหิมะตกนี่สบายเลย
น้ำหนัก 800 กรัมครับ
• กายภาพภายใน
ขอบอกครับว่าเลนส์มุมกว้างเนี่ยเป็นอะไรที่ออกแบบยากมาก รายละเอียดทางคุณภาพของภาพในแง่ต่างๆ มันจะเยอะหน่อย ออกแบบมาไม่ดีละก็ภาพนี่แทบจะดูไม่ได้ เบี้ยวมั่งเพี้ยนมั่งอะไรเทือกนั้น
MF 14mm F/2.8 RF ตัวนี้จึงต้องมีการใช้ชิ้นเลนส์พิเศษเข้ามาช่วยแก้ด้วย (เห็นไหมล่ะครับว่าไม่ก๋องแก๋งแน่ๆ) มี 14 ชิ้นเลนส์แบ่งเป็น 10 กลุ่ม มีเลนส์ชนิดพิเศษคือ ASP (Aspherical), H-ASP (Hybrid Aspherical), ED (Extra low Dispersion) 2 ชิ้น และ HR (High Refractive) อีก 3 ชิ้นประกอบร่วมอยู่ในนั้น
มีระบบการเคลือบผิวเลนส์แบบ UMC (Ultra Multi Coat) ของค่ายนี้เค้าเอง ซึ่งทั้งชิ้นเลนส์พิเศษและระบบการเคลือบผิวเลนส์ที่ว่าก็มาเพื่อช่วยแก้และลดอาการผิดเพี้ยนทั้งหลาย เป็นต้นว่าสีเหลื่อม, ภาพบิดเบี้ยว แสงหลอนและแฟลร์อะไรเหล่านั้น ช่วยให้คุณภาพของภาพมีข้อด้อยน้อยที่สุด
กลีบรูรับแสงจำนวน 6 กลีบ บีบได้ตั้งแต่ F/2.8 ไปจนถึง F/22 องศาการรับภาพเท่ากับ 115.7 องศา
• MTF Chart
ดูจากชาร์จแล้วอยากจะเป็นลมครับ วิศวกรของเค้าออกแบบมาได้ถึงพริกถึงขิงจริงๆ เพราะมันบอกเราว่าที่รูรับแสงกว้างสุด F/2.8 ซึ่งมักจะเป็นจุดอ่อนของเลนส์มุมกว้างพิเศษนั้นมันกลับให้คุณภาพของภาพที่ดีไปยันขอบภาพเลยทีเดียว มีอ่อนแรงลงเล็กน้อยที่ช่วงปลายนิดนึงซึ่งแทบไม่มีผล แต่พอไปที่ F/8 แล้วทีนี้เส้นตรงดิ่งเกาะระดับสูงสุดไปชนขอบภาพนู่นเลยทีเดียวเชียวล่ะ โหดร้ายมาก
คุณอาจจะเคยเห็นอาการของเลนส์ชนิดนี้ที่ตรงบริเวณขอบภาพมันจะเบลอๆ ฟุ้งๆ หน่อยไหมล่ะครับ เลนส์มุมกว้างพิเศษมักจะเป็นเช่นนั้น แต่ไม่ใช่กับ 14mm F/2.8 รุ่นนี้แน่ ถึงใจพระเดชพระคุณจริงเชียว
สมแล้วละครับที่เลนส์รุ่นนี้ของเค้าเป็นที่ฮือฮามาประมาณนึงแล้ว (เค้ามีทำเลนส์รุ่นนี้สำหรับเม้าท์อื่นๆ มาก่อนหน้านี้ด้วย)
• ภาคสนาม
คุณต้องหมุนโฟกัสเองแน่ๆ แต่ที่แน่ใจได้เลยก็คือมันจะไม่มีเอ๋อไม่มีงง เพราะทุกอย่างหมุนด้วยมือล้วนๆ ดังนั้นในแง่ของการใช้งานทางกายภาพแล้วอาจจะไม่มีอะไรที่ต้องพูดถึงมากนัก คุณอาจจะเปิดระบบ “Peaking” ของกล้องให้แสดงส่วนที่โฟกัสเข้าให้ดูก็ได้ครับ ที่มันจะเป็นสีๆ ตามขอบของวัตถุขึ้นบนจอภาพให้ดูน่ะ
เลนส์หน้าตาดูดี หมุนคล่องสะดวกมือ ถือไปไหนไม่อายใครแน่
ส่วนใหญ่แล้วการถ่ายภาพแนวนี้ก็แทบไม่ได้ต้องการความเร็วอะไรมากนัก คุณต้องพิถีพิถันค่อยปรับค่อยหมุนสักหน่อยอยู่แล้วจริงไหมล่ะ? สายถ่ายภาพทางช้างเผือกหรือถ่ายดาวคงจะถูกอกถูกใจเพราะยังไงก็ต้องหมุนโฟกัสเองไปที่ Infinity อยู่แล้วนี่นะ
ถ้าคุณนำเลนส์รุ่นนี้ไปเทียบกับเลนส์รุ่นแพงๆ ระดับโปรละก็แน่นอนว่ามันย่อมสู้ไม่ได้อยู่แล้วล่ะ (บางรุ่นราคาต่างกันเกินห้าเท่าเลยเชียวนะ) แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพของภาพในตัวมันเองละก็ ผมบอกได้เลยว่ามันอยู่ในระดับที่ดีพอสมควรทีเดียว ทั้งสีสันและความคมชัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
อาการบิดเบี้ยวมีปรากฏอยู่บ้างตามธรรมชาติของเลนส์มุมกว้างพิเศษ แต่นั่นหมายถึงถ้ามีแนวเส้นในระยะใกล้กับหน้าเลนส์จริงๆ ถึงจะสังเกตเห็นได้ สำหรับระยะห่างตามปกติแล้วมันก็แทบจะไม่ก่อปัญหาให้ต้องตามแก้ทีหลัง อาการสีเหลื่อมก็จัดว่าน้อยด้วย และที่สำคัญก็คือ มันคมยันขอบจริงๆ
มันมีเสน่ห์อย่างหนึ่งของพวกเลนส์มือหมุนที่น่าสนใจครับ คุณต้องหมุนรูรับแสงจากบนตัวเลนส์ใช่ไหมล่ะ? เมื่อคุณหมุนไปแล้วก็จะได้เห็นผลจริงๆ ของมันในจอภาพตั้งแต่ตอนนั้นแบบ Realtime เลย เช่น คุณจะได้เห็นลักษณะของแฉกแสงได้ทันทีก่อนถ่ายภาพว่ามันดูเป็นยังไง ควรขยับปรับเปลี่ยนตำแหน่งมุมกล้องอะไรบ้างไหมเพื่อให้มันดีขึ้น เพราะ EOS R และ RP ไม่มีปุ่ม Depth of Field preview เหมือน DSLR คุณจึงไม่สามารถหรี่รูรับแสงดูได้ก่อนสำหรับเลนส์ปกติ แต่ถ้าเป็นเลนส์รุ่นนี้ละก็ดูก่อนได้เลย ถ้าเป็นวีดีโอก็เห็นได้เดี๋ยวนั้นเลย
สำหรับแฉกของแสงซึ่งนักถ่ายภาพส่วนใหญ่สนใจในกรณีของเลนส์มุมกว้าง ผมต้องบอกว่าเนื่องจากเลนส์รุ่นนี้มีกลีบรูรับแสงเพียงแค่ 6 กลีบ มันจึงไม่ได้ให้แฉกของแสงแบบอลังการราวกับหอยแม่นเหมือนเลนส์รุ่นแพงๆ เรียกว่าพอไปวัดไปวาได้ไม่น่าเกลียด แต่ก็นั่นแหละครับ เค้าน่าจะออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักถ่ายภาพดาวหรือทางช้างเผือกเป็นสำคัญ ซึ่งลักษณะของแฉกแสงไม่ได้ช่วยอะไรอยู่แล้ว แต่สายลากไฟอาจจะมีผิดหวังเล็กน้อย
คุณภาพไฟล์ของ Canon EOS R เองโดยปกติมันก็เจ๋งอยู่แล้ว ถ้าได้เลนส์ดีๆ เข้ามาเสริมภาพก็ยิ่งออกมาดีเข้าไปกันใหญ่ ซึ่งเลนส์รุ่นนี้ก็ตอบสนองออกมาได้ดีไม่น้อย ไล่สีได้เนียน สีสันออกแนวกลางๆ ไม่จัดจ้านมากนัก เนื้อไฟล์ยังสามารถนำมาโปรเซสต่อได้สบาย
หนักไหม?…ก็ประมาณนึงครับ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่เรื่องห่วงหน้าเลนส์นี่แหละ การจะปิดฝาเข้าๆ ออกๆ นั่นคงจะไม่ค่อยสะดวกนัก ถ้าใครคิดระบบที่ช่วยในเรื่องนี้สำหรับเลนส์หน้านูนแบบนี้ได้ก็คงจะดีไม่น้อยเลยเชียว
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นเลนส์ที่ใช้งานได้ดีรุ่นหนึ่งเลยทีเดียวครับ
• EOS R
เพิ่มเติมให้อีกนิดสำหรับการใช้งานร่วมกับ Canon EOS R เพราะคุณอาจจะเจอปัญหาว่าชัตเตอร์ไม่ลั่นเมื่อใช้เลนส์จาก SAMYANG รุ่นนี้ (หรือเลนส์ MF อื่นๆ)
ให้คุณเข้าไปปรับค่าในเมนู Custom Function (เมนูรูปกล้อง) ในหัวข้อที่ 5 “Release shutter w/o lens” เข้าไปเลือกเป็น “On”
เพราะ EOS R จะป้องกันการลั่นชัตเตอร์โดยไม่ตั้งใจหากไม่มีเลนส์ติดตั้งอยู่ ซึ่งเลนส์ MF ไม่มีขั้วสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสื่อสารกับตัวกล้อง แม้ว่าจะติดตั้งเข้าไปแล้ว EOS R ก็ยังไม่รู้ว่ามีเลนส์ติดตั้งอยู่ จึงต้องมาเปิดคุณสมบัตินี้เอาไว้นั่นเอง
และด้วยความที่เป็นเช่นนี้ ใน Exif ของไฟล์ภาพจึงไม่มีข้อมูลของเลนส์และขนาดรูรับแสงปรากฏอยู่ ไม่ต้องตกใจเพราะมันเป็นเรื่องปกติ
• สรุป
ถ้ามองโดยรวมสำหรับผมแล้วมันจัดเป็นเลนส์คุณภาพระดับกลางค่อนไปทางดี แต่เมื่อนำเอาปัจจัยเรื่องราคาเข้ามาร่วมด้วยแล้วละก็มันจะกลายเป็นเลนส์ที่ดีถึงดีมากเลยทีเดียวเชียวแหละครับ เพราะคุณจะไปหาเลนส์ 14mm F/2.8 ในราคานี้ได้จากที่ไหน? แถมมันยังให้คุณภาพของภาพในระดับที่ไม่ด้อยเลยอีกต่างหาก
หากคุณใช้ EOS R และชื่นชอบการถ่ายภาพดาวหรือทิวทัศน์แบบกว้างๆ (รวมไปถึงนักรีวิวที่พักที่เที่ยวทั้งหลายด้วยนะ) เป็นพิเศษละก็ นี่คือเลนส์ดีที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ รุ่นหนึ่งเลย
กว้างระดับ 14mm, ไวแสง F/2.8, งานประกอบพร้อมวัสดุชั้นดี คุณภาพของภาพไม่อายใคร และสบายกระเป๋าตังค์ เอาไปบวกกับคุณภาพของภาพชั้นเลิศของ EOS R หรือ RP เข้าแล้วละก็ บอกเลยว่ากล้องของคุณจะคุ้มค่าและมีศักยภาพมากขึ้นกว่าเดิมได้อีกเยอะ…
…และตังค์เหลือด้วย!
ศึกษาข้อมูลของเลนส์รุ่นนี้เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ SAMYANG > คลิก
ขอบคุณบริษัท Camera Maker Co., Ltd. ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยสำหรับเลนส์ที่ใช้ในการทดสอบ
ปิยะฉัตร แกหลง
มิถุนายน 2562
